จากนั้นเวลา 16.00 น. แกนนำพรรคจะมาพบกันที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม เพื่อเดินพบปะประชาชนอีกครั้ง จนกระทั่งเวลา 17.30 น. กิจกรรมการหาเสียงของพรรคทั้งหมดจะยุติลง ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมในวันสุดท้ายนี้จะมีส่วนทำให้ชาวกทม.ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เป็นจำนวนมาก
นายองอาจ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในวันที่ 3 มี.ค.นั้น เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องดังนี้ คือ 1.ให้ชาวกทม.ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เสียงที่เกิดจากการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรมผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีลักษณะข่มขู่คุกคามผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ และเพื่อไม่ให้อำนาจเงินมามีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง
2.ขอให้ชาวกทม.ช่วยเป็นอาสาสมัครสังเกตการณ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ตั้งแต่เปิดหีบจนปิดกระทั่งปิดหีบ หากพบสิ่งผิดปกติขอให้แจ้งผู้อำนวยหน่วยเลือกตั้งในจุดนั้นๆ หรือแจ้งมายังพรรคประชาธิปัตย์
3.หลังจากเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ขอให้ชาวกทม. เป็นหูเป็นตาทักท้วงการนับคะแนนที่ผิดพลาด ซึ่งอาจจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
ส่วนกิจกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 3 มี.ค.นั้น นายองอาจ กล่าวว่า หลังจากที่แกนนำพรรค ส.ส.และผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรค ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเสร็จก็จะแยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว จากนั้นในช่วงนับคะแนนทั้งหมดจะกลับมารวมตัวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งระหว่างการลงคะแนน ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรค พร้อมด้วยทีมกฎหมายของพรรคจะเปิดทำงานตลอด เพื่อตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม