ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ภายในเดือนเมษายนนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี โดยการลงนามกับกลุ่มดังกล่าวถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการแก้ไขปัญหา และไม่ได้เป็นการยกระดับกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มดังกล่าวให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาการพูดคุยไม่เป็นระบบ
ส่วนจะทำให้กลุ่ม BRN เปลี่ยนแนวคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนได้หรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลาเปลี่ยนแนวคิดก็เปลี่ยนได้ ถึงมีแนวคิดนี้ก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จได้ เนื่องจากรัฐบาลและกองทัพไม่ยินยอม แต่ยินดีที่จะคุยกับทุกกลุ่มแต่ต้องไม่มีเงื่อนไข รวมถึงต้องเป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม
ทั้งนี้เห็นว่าการที่นายนาจีฟ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนช่วยให้เกิดการลงนามดังกล่าวนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีมีความรักชาติและอยากให้เกิดความสงบ ส่วนที่ตนไม่ได้เดินทางร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ได้ถูกลดบทบาท แต่เป็นการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมีกำหนดต้องขึ้นเวทีปราศัยใหญ่
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีมีข่าวเตรียมแต่งตั้งนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่ม นปช.เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.หาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ชนะการเลือกตั้ง โดยระบุว่า เป็นเรื่องการเมืองระดับท้องถิ่น และตนเองไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค