"ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ชัดว่า พล.ต.อ.ดร.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย จะชนะการเลือกตั้ง" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ระบุในเอกสารเผยแพร่ โดยผลสำรวจพบว่า ตัวอย่างประชาชนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 66.4 โดยผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 45.9 ระบุจะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ และถ้าประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 66.4 ตามผลสำรวจนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ จะได้เกินกว่าหนึ่งล้านคะแนน คืออยู่ในช่วง 1,176,781-1,464,503 คะแนน
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 34.1 ระบุจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และถ้าประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 66.4 ตามผลสำรวจนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะได้คะแนนอยู่ในช่วง 837,270-1,124,992 คะแนน
ผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ผลสำรวจพบ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้รับคะแนนสูงสุดคือ ความต้องการของประชาชนคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและเบื่อความขัดแย้ง ส่วนใหญ่ต้องการทำมาหากิน ต้องการได้แนวทางแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยมุ่งหวังว่ารัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรี สามารถทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมีการเชื่อมประสานแบบบูรณาการ ทั้งในเรื่องค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ปัญหาจราจร ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ขยะเน่าเหม็น การพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะ การควบคุมอาคาร และการดูแลเอาใจใส่ความต้องการของประชาชนกลุ่มวัฒนธรรมย่อย(Sub-Culture People) ให้ทั่วถึงด้วย
"ถ้ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ก็น่าจะถึงเวลานับถอยหลังในบทบาททางการเมืองของรัฐบาล แต่ถ้าหาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ร่วมมือกับรัฐบาลเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้นได้ตามที่เคยหาเสียงไว้ รัฐบาล และผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ก็จะอยู่ได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง" นายนพดล กล่าว