การจัดงานจะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8-12 มี.ค.56 โดยวันพรุ่งนี้รัฐบาลได้เชิญบรรดาเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแนวคิดของรัฐบาลในการลงทุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้านการขนส่ง 2 ล้านล้านบาท
พร้อมกันนี้ภายในงานจะมีให้ข้อมูลรายละเอียดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละด้าน ทั้งทางถนน, ระบบราง, การพัฒนาท่าเรือ, การพัฒนาท่าอากาศยาน และระบบโลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของประเทศไทยที่จะต้องมีการลงทุนในโครงการดังกล่าว และประโยชน์ที่จะได้รับในด้านต่างๆ ที่จะเกิดตามมาหลังจากมีการลงทุนไปแล้ว
"หวังว่าการจัดงานครั้งนี้จะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้หันมามองประเทศไทย และเลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การบริหารประเทศตามที่รัฐบาลได้เคยประกาศไว้ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการลดต้นทุนด้านขนส่ง ที่ผ่านมาประเทศว่างเว้นการลงทุนมานานแล้ว การขนส่งส่วนใหญ่ 80% ใช้ทางถนน ซึ่งทำให้เกิดความสิ้นเปลืองพลังงาน ขณะที่ต่างประเทศไปเน้นขนส่งทางน้ำ ขนส่งระบบราง และขนส่งทางอากาศมากขึ้น
"การลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่การทุ่มงบประมาณทั้งหมดลงไปรวดเดียว แต่จะทยอยก่อสร้างในช่วง 7 ปี ซึ่งรัฐบาลจะพยายามดูแลเรื่องวินัยการเงินการคลัง ให้วงเงินหนี้สาธารณะอยู่ในกรอบไม่เกิน 50%" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนความกังวลเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนนั้น ที่ผ่านมาทุกฝ่ายพยายามช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นและตอบรับที่จะเข้ามาลงทุน