(เพิ่มเติม) นายกฯเผยผลเยือนสวีเดน ยันไทยพร้อมลุยพลังงานสะอาด-เชิญชวนชมนิทรรศการThailand 2020

ข่าวการเมือง Saturday March 9, 2013 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ซึ่งเป็นการบันทึกเทปขณะที่เดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน และเบลเยียม โดยถือว่า ไทยมีความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 100 ปี กับทั้ง 2ประเทศ และไทย ได้รับโอกาสในการเข้าพบกับผู้นำ 3 เสาหลัก ของกลุ่มอียู ซึ่งมองสวีเดน เป็นประตูสู่ยุโรปเหนือและสวีเดน มองไทยเป็นประตูสู่อาเซียนด้วย ซึ่งการมาเยือนครั้งนี้ได้พานักธุรกิจกว่า 30 ราย ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการใช้พลังงานทดแทน พลังงานสะอาด

ทั้งนี้ รัฐบาลวางแผนอยากจะสร้างเมืองใหม่สีเขียว หรือ Green cityขึ้นในอนาคต ขณะที่ได้มีการเปิดน่านฟ้า เพิ่มเที่ยวบิน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ชาวสวีเดน บินมาไทย และสามารถบินตรงมายัง จ.ภูเก็ต ได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทให้เกิดความมั่นใจกับนักลงทุน

โดยนายกรัฐมนตรี เชิญชวนให้ประชาชนมาชมรายละเอียดงาน Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก ที่จัดแสดงที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 8 - 12 มี.ค. ซึ่งเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท

"รัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็น เป็นแผนการลงทุนของประเทศ นำภาพการลงทุน ทั้งเรื่องการพัฒนาจากการใช้ถนนมาเป็นรถไฟรางคู่ ทำให้ชีวิตประชาชนสะดวกรวดเร็วขึ้นอย่างไรบ้าง ก็อยากเชิญให้ประชาชนมาชมงานนี้ให้มากๆ เรียกว่าเป็นอนาคตของประเทศไทย ในปี 2020"นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกฯ กล่าวถึงประเทศสวีเดนว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ชาวสวีเดินชอบมาติดอันดับต้นๆ โดยมีชาวสวีเดินที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ประมาณ 3.5 แสนคน และคนไทยมาอยู่สวีเดนประมาณ 3หมื่นคน สิ่งที่เราต้องการเสนอเพิ่มเติมคือ ผู้สูงอายุต้องการมาท่องเที่ยวและมารักษา เพราะสวีเดนมีปัญหาค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงขึ้น ก็มองหาทางเลือกอื่น ของไทยมีเทคโนโลยีในการรักษา แต่อาจจะติดปัญหาด้านกฎระเบียบ ซึ่งในเรื่องนี้ เราก็ขอนายกฯช่วยเรา ในการประสานหาผู้เกี่ยวข้องส่งเสริมให้ผู้มีสวัสดิการ ให้คนของสวีเดนมารักษาที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ยุโรปให้การรับรองข้าวหอมมะลิจีไอ เป็นข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และยังได้ขอจดสิทธิบัตรจีไอ อีก 2 รายการ คือรายการกาแฟดอยช้าง และดอยตุง โดยการได้รับสิทธิบัตร GI จะช่วยส่งเสริมและขยายสินค้าเกษตรไทยในตลาด EU

นอกจากนี้ มีสินค้าเกษตรอินทรีย์ตรงนี้ตลาดมีมาก มีองค์กรที่มาช่วยดูคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ การตลาด เรียกว่าแฟร์ เทรด ก็เป็นโอกาสที่ทำให้สินค้าของเรามาขายในต่างประเทศ ทำให้ได้ราคาสินค้าในราคาสูงและเป็นธรรมกับเกษตรกรด้วย

นายกฯ ยังได้กล่าวถึง ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยว่า เราดีใจเพราะการตอบรับจากยุโรป เขาชื่นชมว่าประเทศไทยเรารักสามัคคีต่อสู้น้ำท่วม เศรษฐกิจกลับมาโต 6.4% เขาก็มีความเชื่อมั่น และตอกย้ำความสำคัญ นอกจากนี้ ทางเบลเยี่ยมก็จะมีการนำนักธุรกิจมาเยือนประเทศไทยด้วยประมาณ 150 คน เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ และเป็นโอกาสที่เอกชนจะเพิ่มการค้าการลงทุนมากขึ้น

ด้วยความที่ยุโรปเริ่มมั่นใจในไทยจากสัญญาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามา และเริ่มมีนักลงทุนเข้ามา เป็นความมั่นใจ เป็นการสานต่อว่านอกจากการลงทุนในไทยแล้วยังมีแผนลงทุน 2 ล้านล้านบาท เขาเข้ามาก็จะมี 2 บทบาทคือนอกจากลงทุนในไทยแล้ว ก็ใช้ไทยเป็นฐานในการลงทุนอาเซียน ซึ่งคนที่จะลงทุนเขาก็จะมองพื้นฐานว่าโครงสร้างอยู่ในระยะยาวและลดต้นทุนในระยะยาวหรือไม่ ซึ่งเราก็ตอกย้ำไปกับนักลงทุน ก็ได้รับการตอบรับ

การตอบรับของภาคธุรกิจ เป็นการตอบรับที่ดี เพราะได้รับฟังปัญหาอย่างแท้จริง ก็สามารถนำไปพูดคุยในวงหารือระดับสูงและติดตามเป็นระบบ เพราะนอกจากรัฐจะแนะนำพาร์ทเนอร์ หรือคู่ค้า ส่วนความสมัครใจในการค้าขายหรือลงทุนก็แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ที่สำคัญคือเราได้รับฟังปัญหาที่แท้จริง ความสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชนน่าจะดีขึ้น เห็นได้จากตัวเลขที่นักลงทุนมาขอส่งเสริมก็สูงสุดเป็นประวัตการณ์และภาครัฐก็ช่วยหนุนให้คู่ค้าทั้งคู่มาเจอกันเร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ