ส่วนแนวทางการพูดคุยกับผู้ก่อความไม่สงบนั้น ร.ต.อ.กล่าวว่า เป็นเรื่องดี และฝ่ายบริหารต้องฟังทางกองทัพเป็นหลัก และมีความเป็นไปได้ที่ทางกองทัพจะพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และมั่นใจว่าแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ลงนามเจรจาเพื่อสันติภาพกับเลขาธิการ สมช.เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นตัวจริงแน่นอน เนื่องจากทางการมาเลเซียได้ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกจนเกิดการลงนามดังกล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.)ของพรรคเพื่อไทยจะขอกลับเข้ามารับราชการตำแหน่งเดิมนั้น ตนเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.พงศพัศ และขณะนี้ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 มี.ค.56 อย่างเป็นทางการก่อน
ร.ต.อ.เฉลิม ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา โดยระบุว่าตนเองยังไม่ได้อ่านเรื่องดังกล่าว
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล แต่อยากทำงานอยู่ในหน้าที่ต่อไปเพราะการทำงานกำลังมีความต่อเนื่อง
"เดี่ยวไม่อยู่นักข่าวจะเหงา ภาวนาให้ท่านนายกฯ เอาไว้ต่อ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว