อย่างไรก็ดี การประชุมต้องยึดข้อบังคับเป็นสิ่งสำคัญ การอภิปรายและการประท้วงจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุและผล พร้อมมั่นใจจะไม่เกิดปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบหรือสภาล่ม เพราะเป็นวาระสำคัญที่ ส.ส.จะเข้าร่วม และคงไม่เกี่ยวกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์มากำชับส.ส.เพื่อไทยให้รักษาองค์ประชุม
ประธานรัฐสภา ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม 3 ฉบับว่า ได้บรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 1-2 เม.ย.แล้ว โดยเชื่อว่าการพิจารณาประเด็นนี้จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งหรือเป็นปัญหา แม้จะมีการมองต่างมุมในมาตรา 68 ที่ผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดสามารถยื่นเรื่องยุบพรรคผ่านอัยการเพียงช่องทางเดียว จากเดิมให้ศาลรัฐธรรมนูญได้อีกหนึ่งช่องทาง เพราะมองว่าเป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบถ่วงดุลไม่ให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว และไม่ใช่การตัดสิทธิของประชาชนตามที่ฝ่ายค้านตำหนิ
พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม 3 ฉบับนั้น ไม่ใช่การปูทางไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เพราะมีความเชื่อมั่นในระบบคานอำนาจ