นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าการประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้น่าจะมีการหารือเรื่องดังกล่าว เพื่อหาทางออกหากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งระงับการประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ไม่ใช่การแก้ไขทั้งฉบับตามที่ฝ่ายค้านกังวล เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่สามารถตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)ได้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีการหารือระหว่าง 2 สภาอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ล่าสุดมีเหตุอุ้มฆ่านายทหารนาวิกโยธินว่า ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงกับกลุ่มที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเจรจา เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันเป็นเวลานาน ดังนั้นจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้เชื่อว่าการพูดคุยครั้งที่ 2 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ สมช.จะหารือภายใต้กรอบของกฎหมายและเป็นไปตามนโยบายของสมช.อยู่แล้ว และขออย่าเพิ่งสรุปว่ากลุ่มผู้เห็นต่างที่สมช.ไปพูดคุยนั้นจะไม่สามารถควบคุมกำลังของตัวเองได้ เพราะยังไม่ถึงขั้นการเจรจาซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน