ทั้งนี้เลขาสมช.ระบุว่า การก่อเหตุในพื้นที่ มาจากหลายปัจจัย ทั้งกลุ่มค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด จึงต้องให้เวลาในการแก้ปัญหา และถือเป็นภาระของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่รับปากจะไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ
พร้อมกันนี้ เลขาสมช. เชื่อว่า อีกไม่นานกลุ่มอื่นๆจะทยอยเข้าพูดคุยกับทางการไทย รวมทั้งมาเลเซียก็ต้องการให้บริเวณชายแดนมีความสงบ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
นอกจากนี้พล.ท.ภราดร ยืนยัน จะไม่มีการปรับกำลังและแผนยุทธศาสตร์การทำงานในพื้นที่ แม้ขณะนี้สถานการณ์จะยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในช่วงรอยต่อ จำเป็นต้องสร้างความเชื่อใจระหว่างกัน ดังนั้นจะต้องอดทนและต่อสู้กันไป เพราะการแก้ปัญหาต้องใช้ระยะเวลา โดยจะมีการประเมินความชัดเจนจากการเจรจาเป็นระยะ