"ประชาชนที่เห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเวลานี้ยังมีไม่ถึงครึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายการเมืองต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง และที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.3 มีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงตามมา เพราะกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจะทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.1 ยังเห็นด้วยอีกว่าควรยกเลิก ส.ว.สรรหา โดยที่ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้นถึงจะเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง" น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าว
ทั้งนี้ เอแบคโพลล์ได้สำรวจเรื่อง "ประชาชนกังวลแก้รัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์นักการเมือง" จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศจำนวน 2,298 ตัวอย่าง ช่วงวันที่ 1-6 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยผลสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 41.7% เห็นว่ารัฐบาลบริหารงานยากลำบากภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 44.5 เห็นด้วยว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม หากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะได้รับการแก้ไข ขณะที่ร้อยะ 29.8 ไม่เห็นด้วย และอีกร้อยละ 25.7 ระบุว่าไม่แน่ใจ
กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 67.3 ยอมรับมีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงตามมา เพราะทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.1 ยังเห็นด้วยที่จะยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) สรรหา โดยเห็นว่า ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้นจึงจะเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง
"หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ของนักการเมืองหรือกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง นอกจากนี้ก็ควรรักษาสิ่งที่ประชาชนพึงพอใจอยู่แล้วให้ดีและทำให้ดีขึ้น อาทิ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน" น.ส.ปุณฑรีก์ กล่าว
นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วงคือคนไทยส่วนใหญ่กำลังตัดสินใจประเด็นสำคัญทางการเมืองในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ควรแก้ไขหรือไม่ควรแก้ไข ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ศึกษาและไม่เข้าใจรายละเอียดของรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ค้นพบจากการศึกษาก่อนหน้านี้ และไม่ได้ติดตามการถ่ายทอดสดการประชุมร่วมรัฐสภาจึงอาจจะทำให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มการเมืองฝ่ายต่างๆ ที่อาจแสวงหาผลประโยชน์จากความไม่รู้และการไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญของประชาชนได้