“ท่านก็จะพยายามลงมาอีก แต่จะไม่มาก ไม่อยากให้เป็นภาระหน่วย ท่านบอกว่า จะให้หน่วยในพื้นที่เป็นพระเอกในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะหน่วยทางด้านความมั่นคง เพราะเป็นหน่วยที่รู้ปัญหาดีที่สุดในพื้นที่...ท่านไม่ได้บอกเป็นระยะเวลา(ว่าจะลงมาอีกเมื่อไหร่) แต่จะให้เสรีในการปฏิบัติต่อหน่วยให้มาก"พ.อ.ปราโมชน์ กล่าว
ทั้งนี้ พ.อ.ปราโมชน์ เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวถึงกระบวนการพูดคุยระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า เป็นแนวทางที่ถูกต้องและต้องมีการพัฒนาในการพูดคุยให้มากขึ้น นำไปสู่การแก้ไขปัญหา ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และการแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) จะเป็นหน่วยงานที่ดูแลในภาพรวมในการพูดคุย
นอกจากนี้ พ.อ.ปราโมชน์ ระบุว่า การลงพื้นที่ของร.ต.อ.เฉลิม ไม่มีวาระซ่อนเร้นแต่อย่างใด แต่เป็นการลงมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อวานก็มีการลงพื้นที่ และมีการประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ตลอดทั้งวัน
“จริงๆท่านบอกลงพื้นที่บ่อยๆ มันเป็นภาระหน่วยที่ผ่านมาท่านสั่งการผ่านระบบศปก.กปต. เมื่อวานติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เยอะ ...ไปพูดคุยกับตำรวจและนอนค้างคืนยะลา"พ.อ.ปราโมชน์ กล่าว
ส่วนเมื่อคืนนี้ภาพรวมไม่พบการก่อเหตุการณ์แต่อย่างใด และมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยก็เป็นไปตามปกติ ซึ่งได้มีการเน้นย้ำในการดูแลรักษาความปลอดภัยก่อนหน้านี้แล้ว
อนึ่ง สำหรับภารกิจการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมด้วยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศ ที่ท่าอากาศยานกองทัพอากาศ (บน.6) และมาถึงสนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี เวลา 13.30 น. ก่อนเดินทางไปวัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเคารพศพทหารที่เสียชีวิตจากเหตุไม่สงบที่เมื่อคืนวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา คือ ร.ท.เริงฤทธิ์ โพธิสา ผบ.ร้อยทหารพราน 4412 และ จ.ส.อ.สัญชัย โสภาวัง ขณะนั่งรถหุ้มเกราะเข้าช่วยเหลือ อส.หลังถูกคนร้ายใช้ปืนยิงโจมตีที่ อ.ปะนาเระมอบเงินช่วย-ชื่นชมผู้เสียสละ
โดยในพิธี ร.ต.อ.เฉลิม ได้วางพวงหรีดของนายกรัฐมนตรีและของตัวเอง ขณะที่ พ.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่4 ได้ทำพิธีวางพวงหรีดของ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ.และของตัวเอง ร.ต.อ.เฉลิม ยังเป็นตัวแทนมอบเหรียญบางระจันและเงินช่วยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นาย เช่นเดียวกับ ผบ.ตร.และแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และคณะเดินทางไปที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์คดีความมั่นคงที่สำคัญในพื้นที่ มี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต. ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด นายตำรวจระดับ ผบช.และ ผบก.เข้าร่วมประชุม หลังการประชุมเสร็จสิ้น ร.ต.อ.เฉลิมเดินทางต่อไปยัง ศชต.จ.ยะลา และพักค้างคืน 1 คืน ก่อนจะเข้าประชุมต่อในวันที่ 12 เม.ย. และจะเดินทางกลับในช่วงบ่ายของวันนี้
โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาพรวมที่ยังก่อเหตุบ่อยครั้งในช่วงนี้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าในการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น พ.อ.ปราโมชน์ กล่าวว่า เป็นความคาดหวังของสังคม ที่เห็นว่าเมื่อมีการเจรจาเหตุการณ์ก่อความไม่สงบจะต้องยุติ แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้มีมาเป็น 100 ปี ทั้งเรื่องอุดมการณ์ในการต่อสู้ และมีผลประโยชน์อื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นในการพูดคุยระดับนโยบายจำเป็นต้องพูดคุยกัน แต่ในพื้นที่ต้องใช้เวลา ต้องเพิ่มความเข้มในระดับมาตรการในการบังคับใช้กฏหมายควบคู่กันไป ซึ่งในประเทศอื่นๆอาจใช้เวลาถึง 50 ปีในการแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ สำหรับภาพรวมการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.อ.ปราโมชน์ เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ได้รายงานและบรรยายสรุปเหตุการณ์ในรอบ 6 เดือนต่อร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งการก่อเหตุไม่ได้เพิ่มขึ้นจากห้วงเดียวกันของปีก่อน การเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่ลดลง แต่เพิ่งจะมาเยอะในช่วงหลัง ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ป่วนในพื้นที่มากกว่า การแจ้งเหตุของประชาชนมากขึ้น การจับกุมคนร้าย การจับอาวุรมากขึ้น
สำหรับแนวคิดของร.ต.อ.เฉลิม ในการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ติดอาวุธนั้น พ.อ.ปราโมชน์ ชี้แจงว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ท่านมุ่งเน้นให้ฝ่ายพลเรือน ฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยในการแก้ปัญหา เมื่อวานได้รายงานเรื่องศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ เพื่อขับเคลื่อนงานกระทรวง ทบวงกรม ให้เป็นเอกภาพ ซึ่งกลไกทำงานคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งถือทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายถึงจะมีการมอบอาวุธให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่เป็นการติดอาวุธทางความคิดทางปัญญาให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมากว่า