โดยในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้พิจารณาและวางแผนอย่างรอบคอบ โดยหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 50% ของจีดีพีแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวเลขที่ยอมรับกันได้ว่าหนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 60% ของจีดีพี แต่รัฐบาลก็จะควบคุมไว้ไม่เกิน 50% ทั้งนี้การกู้เงินก็ไม่ได้เป็นการกู้ทีเดียวทั้ง 2 ล้านล้านบาท แต่จะเป็นการทยอยกู้ในแต่ละปี
ซึ่งจีดีพีของประเทศไทยก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสองล้านล้านบาทนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ การเชื่อมโยงต่างๆ จะก่อให้เกิดรายได้อย่างมหาศาลจากการลดต้นทุนการขนส่ง การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของประเทศก็จะเพิ่มขึ้นอีก การขนส่งพืชผลทางการเกษตรและสินค้าต่างๆ ทำได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดรายได้ การหมุนเวียนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการจ้างงานใหม่ๆ อย่างน้อย 5 แสนตำแหน่ง
"จากตัวโครงการนี้เอง ซึ่งมีผลให้จีดีพีของประเทศเติบโตขึ้นอีก ดังนั้นหนี้สาธารณะเมื่อเทียบกับจีดีพีที่เติบโตขึ้นจึงไม่เกิน50% อย่างแน่นอน และรัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีรายได้ได้มากยิ่งขึ้น มีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้ก่อนกำหนด" นพ.ทศพร กล่าว
พร้อมระบุว่า การที่นายอภิสิทธิ์จะขอแปรญัญตินั้นเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่จะมาช่วยดูแลตรวจสอบ แต่ไม่อยากเห็นการแปรญัตติทุกมาตราๆ มาตราละเป็นร้อยคนเหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังคงค้างในสภา ซึ่งจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายกับการทำงานของสภาฯ
ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องของสมาชิกผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา รัฐบาลคงไม่สามารถเข้าไปสั่งการหรือชี้นำอย่างไรได้ สำหรับเรื่องปัญหาภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยสองวันที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงรองนายกรัฐมนตรี ได้ลงไปปฎิบัติงานในพื้นที่ ถึงแม้จะยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น การเจรจาก็จำเป็นต้องดำเนินต่อไป
เรื่องปราสาทพระวิหารนั้น มองว่าไม่ควรต้องมากล่าวโทษกันว่ารัฐบาลไหนผิดหรือถูก แต่ต้องเดินหน้าร่วมแรงใจช่วยกันไม่ว่าเรื่องภาคใต้ หรือเรื่องปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องของประเทศชาติและของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ควรจะเป็นเรื่องการเมืองหรือเป็นเรื่องของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ซึ่งทุกฝ่ายต้องถอดหมวกออกแล้วร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมีสติในการนำประเทศหลุดพ้นจากปัญหา