ทำเนียบรัฐบาลสหรัฐระบุในเอกสารที่ส่งถึงสมาชิกสภาคองเกรสว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐประเมินด้วยความมั่นใจในระดับหนึ่งว่ารัฐบาลทหารของซีเรียใช้อาวุธเคมีครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็ก โดยเฉพาะสารเคมี Sarin
นายชัค ฮาเกล รมว.กลาโหมสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนกรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ออกแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า ข้อสรุปดังกล่าวมีขึ้นใน 24 ชั่วโมงหลังมีการประเมินไประยะหนึ่ง
"เราไม่สามารถยืนยันแหล่งกำเนิดของอาวุธนี้ แต่เราเชื่อว่า มีแนวโน้มสูงว่าต้นกำเนิดการใช้อาวุธเคมีครั้งใดๆก็ตาม ล้วนมาจากรัฐบาลอัสซาด" นายฮาเกลกล่าว
"ตามที่เอกสารระบุ ท่านประธานาธิบดีได้ให้ความชัดเจนว่า การใช้อาวุธเคมีหรือการถ่ายโอนให้แก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้" รมว.กลาโหมระบุ
อิสราเอล ฝรั่งเศส และอังกฤษระบุว่า รัฐบาลซีเรียซึ่งนำโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดไช้อาวุธดังกล่าวแล้วกับกลุ่มก่อกบฏในเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นปีที่ 3 และมีผู้เสียชีวิตกว่า 70,000 รายจนถึงขณะนี้
"สหรัฐมีหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานการใช้อาวุธนิวเคมีในซีเรียอย่างเต็มรูปแบบ ร่วมกับประเทศผู้ร่วมมือรายสำคัญและพันธมิตรทั้งหมดตลอดจนสหประชาติ (ยูเอ็น)" นายฮาเกลระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ยูเอ็นยังคงมีส่วนร่วมในการหารือทางเทคนิคกับซีเรียด้านการใช้ทีมตรวจสอบในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน