เรื่องแรก เป็นเรื่องชี้แจงความคืบหน้าโครงการไทยแลนด์ 2020 และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีดำริจะแก้ไขปัญหาระบบบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม และวางรากฐานการจัดระบบโลจิสติกส์ใหม่ของประเทศ เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และช่วยสร้างการเจริญเติบโตของประเทศ
เรื่องที่สอง คือ การชี้แจงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลในช่วงที่ไปหาเสียงว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเรื่องนี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งยังติดขัดเรื่องความเห็นที่แตกต่างระหว่างสมาชิกรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ยังค้างอยู่ในวาระ 3 ที่มาตรา 291 โดยศาลรัฐธรรมนูญได้แนะนำให้มีการแก้ไขรายมาตรา
จากนั้นเมื่อสภาฯได้ดำเนินการแก้ไขรายมาตราก็ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 สถาบัน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจมาแทรกแซง โดยกระบวนการทั้งหมดในขณะนี้คือ สภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาระงับยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา จึงจำเป็นจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ส่วนเรื่องที่สาม คือ การทำความเข้าใจเรื่องการออก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่าเป็นการนิรโทษกรรมเฉพาะส่วนของประชาชนทุกฝ่ายไม่ใช่นิรโทษกรรมแกนนำ ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาความตึงเครียดและความขัดแย้งต่างๆในสังคม
"โดยใน 3 เรื่องสำคัญนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ติดค้างอยู่ในการพิจารณาของสภาฯ จึงต้องการใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง และขั้นตอนการดำเนินการ" นายอนุสรณ์ ระบุ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันเสาร์และอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ ส.ส.มีกำหนดการลงพื้นที่ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล โดยจะเริ่มจัดปราศรัยครั้งแรกในภาคอีสาน วันเสาร์ที่ 27 เม.ย.ที่ จ.อุดรธานี สนามทุ่งศรีเมือง
วันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.ที่ จ.ขอนแก่น ณ ศาลากลางจังหวัด วันเสาร์ที่ 11 พ.ค. จ.นครราชสีมา วันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. จ.อุบลราชธานี ส่วนภาคเหนือ เริ่มจากวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. จ.เชียงราย วันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. จ.เชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. จ.พิษณุโลก และภาคกลาง วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. จ.อยุธยา วันเสาร์ที่ 15 มิ.ย. จ.ระยอง
ส่วนการจัดเวทีปราศรัยที่กทม. ปริมณฑล และภาคใต้ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสถานที่ได้ แต่ในเบื้องต้นจะเริ่มอยู่ประมาณ 9-10 จังหวัดก่อน ในทุกเสาร์และอาทิตย์จนครบทุกจังหวัด และพรรคเพื่อไทยจะเร่งลงพื้นที่ในการดำเนินการกระจายตัว ส.ส. เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และจะทำการสรุปข้อมูลเพื่อปรับปรุงการทำงานและดำเนินการต่อไป