การเดินทางเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของรัฐบาลมองโกเลีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และ“เปิดศักราชใหม่"ของความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและมองโกเลีย เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนาความร่วมมือในสาขาที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน รวมทั้งวางพื้นฐาน และกรอบในการดำเนินความร่วมมือสนับสนุนการจัดตั้งกลไกหารือทวิภาคีระหว่างกันเพื่อส่งเสริมให้มีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งผลักดันการแลกเปลี่ยนการเยือน การหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคและในกรอบพหุภาคี
การเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ 7 โดยประชาคมประชาธิปไตย (Community of Democracies - DC) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 ปัจจุบันมีสมาชิก 129 ประเทศ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมหลักการประชาธิปไตย และสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันประชาธิปไตย เน้นการมีส่วนร่วมในการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ ในประเด็นส่งเสริมประชาธิปไตย โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Cementing Accomplishments and Strenthening Reforms"
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมการประชุมมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความท้าทายและการพัฒนาประชาธิปไตย โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์ เพื่อความยั่งยืนของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยอาศัยมุมมองจากประสบการณ์ของไทย รวมทั้งติดตามแนวโน้มสถานการณ์และท่าทีของประเทศต่างๆต่อการเปลี่ยนแปลงและเรียกร้องประชาธิปไตยทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ
ประเทศมองโกเลียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นของโลก โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวอีกในอัตราร้อยละ 10-15 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มองโกเลียยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากและต้องการการลงทุนและความเชี่ยวชาญจากไทย ได้แก่ ถ่านหิน ทองแดง ทองคำ โลหะหายาก สังกะสี และน้ำมันดิบ และมีทรัพยากรด้านปศุสัตว์ ทั้งนี้มองโกเลียต้องการพัฒนาความร่วมมือกับไทยในสาขาพลังงาน ยานยนต์ โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดเล็ก (รถยนต์ปิกอัพ Pickup Car) ซึ่งขณะนี้มองโกเลียมีความต้องการมาก และจะเป็นโอกาสของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่จะขยายตลาดไปสู่มองโกเลีย และการเกษตร