อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมีภาวะความเป็นผู้นำ พ.ต.ท.ทักษิณแยกแยะออก ไม่เคยสั่งการหรือครอบงำสมาชิกพรรค และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาสั่งการส.ส.และส.ว.ได้อย่างไร โดยส.ส.และส.ว.มีสิทธิเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติไว้ตามมาตรา 291
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายไพบูลย์ ยืนอยู่ตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยรวมถึงรัฐบาลมาตลอด จึงน่าจะเป็นเกมการทำลายพรรคเพื่อไทยเพื่อให้กระทบต่อรัฐบาลเท่านั้น และน่าจะเป็นเกมปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 อีกทั้งนายไพบูลย์ น่าจะได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 2550 จากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
ส่วนกรณีการออกจดหมายเปิดผนึกของ 312 สมาชิกรัฐสภาคัดค้านและไม่ยอมรับอำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญนั้น โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภา 312 คนยังคงยืนยันเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา และไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญมาก้าวล่วงและขยายเขตอำนาจของตนเอง
ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 และขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการ การที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ขยายเวลาให้ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก 15 วันโดยจะครบกำหนดในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ขอยืนยันว่า 312 สมาชิกรัฐสภาจะไม่ส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลไม่มีอำนาจมารับคำร้องตามมาตรา 68 ได้
สำหรับการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น คงเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาที่มีการรวบรวมรายชื่อส.ส.ไว้ 100 คน ตามจำนวน 1 ใน 4 ของส.ส.เท่าที่มีอยู่ เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งหรือการกดดันศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นไปเพื่อให้มีการทำตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ถ้าสมาชิกรัฐสภาไม่แสดงออกด้วยการออกมาปกป้องอำนาจอธิปไตย ก็จะมีผลทำให้ประชาธิปไตยเกิดความอ่อนแอ จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่อยู่เหนือองค์กรอื่นๆ รวมทั้งองค์กรอิสระ ซึ่งตนเป็นห่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญยังคงกระทำผิดโดยการก้าวล่วงอำนาจอยู่ต่อไป