นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษก
พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ความสนใจกับปัญหาของประชาชน ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ราคาแก๊ส พืชผลการเกษตร มากกว่าเดินหน้าสร้างบรรยากาศเผชิญหน้า ว่าอาจต้องการทำให้เกิดอุปาทานหมู่ในกลุ่มประชาชน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ต้องสร้างความเข้าใจว่า อำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศนั้น แบ่งอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และ
ตุลาการ โดยทั้ง 3 ฝ่าย ต้องถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน แต่ขณะนี้หลายกรณีอำนาจฝ่าย
ตุลาการ ก้าวล่วงอำนาจอื่น จนทุกฝ่ายทำงานลำบาก เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ให้ 312 ส.ส. และ ส.ว.สมาชิกรัฐสภา ต้องส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถูกโต้แย้งด้วยการส่งแถลงการณ์ ซึ่งมีความชัดเจน ฝ่ายนิติบัญญัติต้องการเพียงยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง ไม่ได้เป็นการกดดันหรือเอาชนะคะคานศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความเห็นต่างในทางกฎหมาย
ทั้งนี้ควรให้ทุกฝ่ายตรวจสอบอำนาจหน้าที่ของตนเอง การที่จะมากล่าวหาว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำร้ายนั้น เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และไม่อยากให้ฝ่ายค้านนำเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมืองและทำร้ายสมาชิกรัฐสภา
"ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง แต่เป็นเพียงการเห็นต่างทางข้อกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าคงมีข้อยุติในที่สุด วันนี้ยังไม่มีใครจะยุบศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ แต่ควรจะมีการปรับปรุงภารกิจให้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่ขับรถคร่อมเลนอำนาจฝ่ายอื่นเขาหมด ระหว่างนี้ฝ่ายบริหารก็บริหารประเทศให้เดินไปข้างหน้า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเผชิญหน้าใดๆ" นายอนุสรณ์ กล่าว
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ ไม่น่าจะมีความรุนแรงใดๆ เพราะผู้ชุมนุมได้รับบทเรียนที่ผ่านมา เพราะถ้าการชุมนุมไม่อยู่ในเสรีภาพและขาดเหตุผล ก็จะขาดการสนับสนุนจากแนวร่วมในที่สุด
อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง โทร.02-2535000 อีเมล์: charuwan@infoquest.co.th--