โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสำคัญของแอฟริกา และความประสงค์ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศในแอฟริกามากขึ้น โดยเฉพาะโมซัมบิกซึ่งเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของไทย โดยโมซัมบิกมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกาตอนใต้และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทยยินดีที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือกับโมซัมบิกทางด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือทางวิชาการ อาทิ พลังงาน การท่องเที่ยว การเกษตร การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ขณะที่นายโอลเดมิโร บาลอย กล่าวว่า ขณะนี้โมซัมบิกกำลังเร่งพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงประสงค์ที่จะร่วมมือกับไทยและเรียนรู้จากประสบการณ์ของไทย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ก๊าซธรรมชาติ และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญที่จะสามารถร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ได้ พร้อมกับยืนยันความพร้อมในการเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนโมซัมบิกอย่างเป็นทางการ
ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในกรอบใต้-ใต้ และเห็นว่าถึงเวลาอันเหมาะสมที่จะจัดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ทัศนะและความร่วมมือระหว่างไทยและแอฟริกา รวมทั้งกับองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องที่มีความสนใจร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายสำหรับความร่วมมือ โดยไทยหวังว่าความริเริ่มของไทยจะเป็นแนวทางนำไปสู่กรอบความร่วมมือระหว่างเอเชียกับแอฟริกาต่อไปในอนาคต
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณรัฐบาลโมซัมบิกสำหรับการเชิญไปเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิกอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการเยือนระดับผู้นำครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยและโมซัมบิก นอกจากนั้นยังเป็นการเยือนประเทศในแอฟริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี