ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเกี่ยวกับการปฏิรูปพรรคฯ ระบุว่า "จุดเปลี่ยนประชาธิปัตย์ จุดเปลี่ยนประเทศไทย"
"ช่วงนี้มีการพูดกันถึงเรื่อง 'ปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์' กันมาก คนให้ความสนใจเยอะซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหมายถึงว่าประชาชนอยากเห็นประชาธิปัตย์มีความเข้มแข็ง คุณอภิสิทธิ์และเลขาฯเฉลิมชัยก็มุ่งมั่นมากในเรื่องนี้ ส่วนคุณอลงกรณ์ก็ชัดเจนมากที่สุดไปแล้ว"
ความจริงจากที่ผมเคยทำงานภาคเอกชนและเป็นเจ้าของบริษัทตัวเองมาสิบกว่าปี ผมยืนยันได้ว่าการปฏิรูปไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกองค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ใครคิดว่าตัวเองใหญ่แล้ว แข็งแรงแล้ว ทำทุกอย่างดีหมดแล้ว นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นแห่งความถดถอย
ไม่มีใครสรุปได้ว่า องค์กรใหญ่ๆจะปรับตัวได้สำเร็จหรือไม่ แต่ในกรณีของประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เป็นเรื่องเพียงแค่เรื่องกำไร-ขาดทุนขององค์กร แต่หมายถึงอนาคตของประเทศเลยทีเดียว เพราะถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จนั่นหมายถึงชัยชนะของระบอบทักษิณ
ซึ่งวันนี้เห็นชัดแล้วว่าระบอบทักษิณมีเป้าหมายที่จะเป็นอำนาจเผด็จการโดยการอ้างเสียงข้างมาก เพราะมียุทธศาสตร์ที่จะยึดครองทั้ง อำนาจบริหาร-อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ในขณะเดียวกันก็มีการคุกคามสื่อ กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม และริดรอนบทบาทของประชาชน
นอกจากนั้นยังเป็นยุคที่มีการกล่าวขานว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดอีกต่างหาก
ในขณะที่ประชาชนรอการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องหนี้สิน เรื่องค่าครองชีพ เรื่องที่ทำกิน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
"ผมไม่อยากจะให้รู้สึกว่าเราสำคัญตนมากถึงขนาดเอาอนาคตประเทศไปผูกกับอนาคตของพรรค แต่ในความเป็นจริง เราก็เป็นความหวังที่ดีที่สุดวันนี้ สำหรับผู้ที่คิดว่าการเมืองน่าจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เราจึงมีหน้าที่ที่จะพัฒนาตนเองให้คึกคักเข้มแข็งขึ้น และหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือการรักษาอุดมการณ์ของพรรค แต่ปรับปรุงให้มีการเข้าถึงพรรค โดยบุคคลภายนอกและแนวความคิดของบุคคลภายนอกมากยิ่งขึ้น และรวมไปถึงการบริหารจัดการที่มีความเป็นมืออาชีพเพิ่มยิ่งขึ้นด้วย"
พร้อมสรุปว่า งานใหญ่ครับ แต่เป็นงานที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าต้องทำ