วานนี้ กทม.เตรียมบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มมวลชนพลังธรรมาธิปไตยที่ได้เข้ามาใช้พื้นที่สนามหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอให้เคลื่อนย้ายออกไปจากพื้นที่ไม่เป็นผลสำเร็จ
โดยในเช้าวันนี้ ทางสำนักงานเขตพระนครได้ออกประกาศ ให้กลุ่มมวลชนพลังธรรมาธิปไตยออกจากพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง พร้อมทั้งรื้อถอนเก็บขนอุปกรณ์เต็นท์หรือเพิงพักและสิ่งปลูกสร้างใดๆออกจากพื้นที่ โดยดำเนินการตามมาตรา 68 มาตรา 69 และมาตรา 89 (10) พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และมาตรา 4 และมาตรา44แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 ประกอบกับมาตรา 122 พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และข้อ 6 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.2554 มาบังคับใช้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ดังกล่าว
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มีการเจรจากับพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.มาโดยตลอด ซึ่งท่านก็ยินยอมให้เราใช้พื้นที่ต่อไปได้ แต่ขอให้มีการขยับออกไปอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ให้
"เราเจรจากับผู้การแต้มมาตลอดในการขอให้พื้นที่ แต่เช้านี้สำนักงานเขตพระนครได้ออกประกาศเรื่องให้กลุ่มมวลชนพลังธรรมาธิปไตยออกจากพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง พร้อมทั้งรื้อถอนเก็บขนอุปกรณ์เต็นท์หรือเพิงพักและสิ่งปลูกสร้างใดๆออกจากพื้นที่ มาบังคับใช้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ดังกล่าว"นายไชยวัฒน์ กล่าว
สำหรับสาเหตุที่ ทางกลุ่มฯ มาชุมนุมกันที่นี่เข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้วเนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา กว่า 300 คนมีพฤติกรรมการแสดงออกไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญหลังจากถูกสมาชิกรัฐสภากลุ่มอื่นยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้สิทธิตามรัฐธรรมนูญขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ถูกยื่นต่อศาลว่าให้ช่วยวินิจฉัยว่าชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางกลุ่มเคลื่อนไหวข่มขู่คุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และต้องการโค่นล้มศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
"ผมถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข เป็นภัยต่อราชอาณาจักร จึงขอประกาศยกระดับการเคลื่อนไหวด้วยการจัดชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป"นายไชยวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ตนยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 คอยติดตามความเคลื่อนไหวในยามวิกาล รวมทั้งถ่ายภาพตนเองตลอดเวลาด้วย
"ผมขอร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่าผมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 ติดตามดูความเคลื่อนไหวในช่วงยามวิกาล ไม่ว่าจะขยับไปทางไหน หรือทำอะไรก็จะมีตร.คอยติดตามทั้งเดินเท้าและใช้จักรยานยนต์ติดตาม ถือว่าเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพ"นายไชยวัฒน์ กล่าว