"เบื่องต้นได้เตรียมกำลังไว้ 18 กองร้อยจาก 9 กองบังคับการ" พล.ต.ต.ปริญญา กล่าว
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะเริ่มทยอยเดินทางมากันตั้งแต่เช้า ซึ่งได้สั่งการให้จัดวางกำลังตำรวจไว้ 4 ทิศ บริเวณโดยรอบที่ชุมนุมเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ พร้อมตั้งจุดตรวจค้นอาวุธและการนำสุราเข้ามาในที่ชุมนุม แต่ปัญหาหลักจะอยู่ที่เรื่องการจราจร เพราะถ้าเกิดมีการปิดถนนหรือมีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินข้ามไปข้ามมาก็จะทำให้มีรถขนาดใหญ่จอดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามประสานให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถใหญ่ที่มาส่งคนครบแล้วให้นำรถไปจอดบริเวณอื่น และเมื่อถึงเวลาเลิกค่อยเข้ามารับกลับ
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า กำหนดการงานดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน แต่คนอาจจะเริ่มทยอยมาก่อนมาหลัง ดังนั้นจำเป็นต้องดูตามหน้างานว่ามีความสามารถในการใช้กำลังมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เพียงพอกับสถานที่และกลุ่มคนที่มาชุมนุม แต่ถ้าจำนวนคนเยอะมากอาจจะใช้กำลังหนุนเสริมเข้าไป โดยกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม เช่น กลุ่มผู้ประกอบการย่านราชประสงค์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำความเข้าใจกับพวกผู้ประกอบการแล้วว่าต้องการอะไร ส่วนใหญ่จะมีความกังวลเรื่องการจราจรให้รถที่สัญจรผ่านไปมาวิ่งได้ก่อน ไม่ใช่จะสร้างเวทีปิดถนนตั้งแต่คนยังไม่มีคนมาชุมนุมไม่ได้ เพราะอาจจะทำกระทบกับประชาชนที่ใช้รถประจำทางสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะทำให้รถประจำทางต้องเปลี่ยนเส้นทางและประชาชนเดินทางลำบาก
"หากจำเป็นต้องปิดการจราจรบริเวณไหนก็จะดูจากจำนวนปริมาณที่มีมาก แจ่ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมอยู่ การทำงานก็จะเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการตรวจสอบมือที่ 3 ที่จะเข้ามาก่อเหตุ หากพบการข่าวว่าอยู่บริเวณใด ก็จะจัดกำลังเข้าไปดู มีทั้งสายสืบนอกเครื่องแบบและตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบ" พล.ต.ต.ปริญญา กล่าว
พล.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า ได้จัดเตรียมแผนเผชิญเหตุหากมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น รวมถึงการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยให้หน่วยอีโอดีตรวจสอบพื้นที่ก่อนชุมนุม ซึ่งมีการตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว รวมถึงตั้งจุด ศปก.น.อยู่ 2 ฝั่ง คือ บริเวณฝั่งห้างเกสรพลาซ่า และฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์ สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที
"ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพราะเป็นเพียงการชุมนุมเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบในการชุมนุมเท่านั้น" พล.ต.อ.ปริญญา กล่าว