"การพยายามใช้กลไกของรัฐเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุน จึงไม่อาจสำเร็จลงได้ ไม่ว่าจะมีการยุบพรรคสักกี่ครั้ง ตั้งคนเป็นศัตรูมาสอบสวนเอาผิด ฉีกกติกาที่เป็นธรรมแล้วเขียนกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ก็ไม่สามารถปิดกั้นความต้องการประชาธิปไตยของประชาชนได้ แปลกใจที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามหาเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมจึงมีการรัฐประหารในปี 2549 ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อต้านการรัฐประหาร" นายนพดล กล่าว
พร้อมระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เน้นการต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยอย่างอหิงสา พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีปัญหากับกฎหมายที่เป็นธรรม และไม่ได้มีปัญหากับผู้พิพากษาที่ตัดสินอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลในบางคดี แต่ก็ได้เน้นว่าผู้พิพากษาดีๆ ที่ยังมีใจเป็นธรรมก็ยังมีอยู่มากในประเทศไทย
ส่วนการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือเป็นเรื่องภายในที่พรรคเพื่อไทยไม่ประสงค์จะไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะพรรคมีวัฒนธรรมการเมืองที่ต่อสู้กันด้วยนโยบายที่ชัดเจน ทำตามคำสัญญาหาเสียง จึงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน และชนะการเลือกเลือกตั้งในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ส่วนที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้อง พ.ต.ท ทักษิณ ให้ปฏิรูปพรรคเพื่อไทยนั้น นายนพดล กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจ เพราะตอนแรกนายอลงกรณ์ บอกประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งเพราะคิดไม่ทัน พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงเห็นว่านายอลงกรณ์ควรปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ให้สำเร็จเสียก่อน เพราะพรรคเพื่อไทยมีการปรับปรุงตลอดเวลา เพียงแต่เราคุยกันภายใน ไม่ได้เสนอความคิดผ่านทวีตเตอร์