โดยในส่วนของคำร้องทั้ง 4 คำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 นั้นเป็นของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา, นายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน กับคณะ, นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว.สรรหา และ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ซึ่งระบุในคำร้องทำนองเดียวกันว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กับพวก ร่วมกันกระทำการเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการตัดสิทธิของบุคคลในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งไม่รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา, นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายคมสัน โพธิ์คง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 283 คน กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศดดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น
โดยผู้ร้องทั้งสามอ้างว่าทราบการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีร่วมกับพรรคเพื่อไทยกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ด้วยการสไกป์(Skype) หรือวีดิโลลิงค์(Video Link) จำนวนหลายครั้ง เพื่อสั่งการในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยให้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายปรองดอง ออกกฎหมายนิรโทษกรรม และออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
"กรณีตามคำร้องเป็นการแสดงความคิดเห็นในทางการเมืองโดยทั่วไป ยังมิได้มีการกระทำฝ่าฝืนหรือต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย" คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ