นายกฯสั่งฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบเหตุระเบิดอย่างละเอียด สั่งจนท.ดูแลเข้มงวด

ข่าวการเมือง Monday May 27, 2013 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้รับทราบการเกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้ารามคำแหง 43/1 เมื่อคืนนี้และได้ให้หน่วยงานความั่นคงตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด พร้อมกับรายงานให้ทราบต่อไป โดยยังไม่ตัดประเด็นการก่อการร้ายหรือความขัดแย้งทางด้านธุรกิจ ซึ่งคาดว่าตำรวจอาจจะสรุปรายงานมาให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ และในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีอาจจะเปิดเผยข้อมูล แต่ยังไม่ขอสรุปว่าเป็นระเบิดทางการเมือง หรือเกี่ยวโยงกับการสร้างสถานการณ์ไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้
"นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน"นายธีรัตถ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมกับพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามสถานการณ์หลังเกิดเหตุระเบิด รวมถึงการหารือเรื่องการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาเรียกร้องยังทำเนียบรัฐบาล

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ หน่วยพิสูจน์หลักฐาน สายสืบทุกชุด ที่ส่งออกไปหาข้อมูลกำลังดำเนินการสรุปผลเหตุการณ์เกิดระเบิดที่บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ซึ่งหากทุกหน่วยมีความพร้อมก็จะเรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า

ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เพราะเบื้องต้นมีการใช้อุปกรณ์ประกอบระเบิดที่แตกต่างกัน และยังไม่สรุปได้ว่าจะเปิดประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจ กลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือเหตุวินาศกรรม เพราะต้องรอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสรุปข้อมูลทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนในการร่วมตรวจสอบ เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้วจะส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้ครั้งนี้ทราบว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต แต่ตำรวจในทุกพื้นที่ได้มีการวางมาตรการอย่างเข้มงวดแล้ว

ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน โดยยังไม่มีการสรุปที่แน่ชัด ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงดูในทุกประเด็น เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในภาคใต้ อีกทั้งจากการตรวจสอบลักษณะการประกอบระเบิดแล้วเป็นชนิดแสวงเครื่องแต่มีความรุนแรงที่แตกต่างกันกับเหตุใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

"มีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวโยงกับผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียในพื้นที่ดังกล่าว"เลขาฯ สมช.กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในทุกพื้นที่รวมถึงในกรุงเทพมหานครด้วย

ส่วนกรณีการเผยแพร่คลิปของนายฮัจญี อาดัม มูฮำหมัด นูร จนท.ในคณะพูดคุยเจรจา และเป็นสมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น ทางเว็บไซต์ยูทูปนั้นถือว่าเป็นเทคนิคช่วงชิงความได้เปรียบเพื่อให้ได้คำตอบก่อนที่จะมีการพูดคุยครั้งต่อไป แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการได้เปรียบเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ของไทยยังยึดการลดเหตุรุนแรงในพื้นที่และทำตามรัฐธรรมนูญไทยและใช้แนวทางสันติวิธี และทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ โดยยึดเสียงประชาชนไทยเป็นหลักมากกว่าจะฟังข้อเงื่อนไขจากกลุ่ม BRN และพร้อมรับฟังข้อเสนอของผบ.ทบ.ที่ให้มีการล้อมรั้วชายแดนภาคใต้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการหยิบยกข้อเสนอดังกล่าวขึ้นมาหารือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ