รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า การต่อต้านการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ และร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทั้งหมดเกิดจากการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่าเหตุที่พยายามก่อกันขึ้นน่าจะเป็นเพียงแรงกระเพื่อมเล็กๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคจะเดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบความจริงเพื่อความปรองดอง สภาผู้แทนราษฎร ที่ผลการศึกษาให้ดำเนินการเรื่องนี้ รวมทั้งดำเนินการตามที่พรรคหาเสียงไว้ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากรัฐประหารและไม่เป็นประชาธิปไตย
"ถ้าประชาชนไม่ให้แก้ พรรคเพื่อไทยคงไม่ชนะการเลือกตั้งมาถล่มทลายขนาดนี้ ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนทั้งประเทศยังต้องการประชาธิปไตย อันธพาลเสียงข้างน้อยทั้งในสภานอกสภา หรือท้องถนน จะทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน" รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ