ส่วนแรกที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหางบประมาณฯ ที่เกี่ยวข้องแต่ละกระทรวง และที่นโยบายเร่งด่วน 16 ข้อของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องการทำงานหลายกระทรวง นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีประสานกับกระทรวงในการเป็นแม่งานรับผิดชอบประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นทิศทางในทิศทางเดียวกันเนื่องจากการอภิปรายอาจพาดพิงหลายกระทรวง รัฐมนตรีมากกว่าหนึ่งกระทรวงสามารถลุกขึ้นชี้แจงได้ และให้รัฐมนตรีแสดงตนเพียงอย่างเดียวไม่ต้องโหวต เพื่อเป็นไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้แจ้งผลการหารือร่วมคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ถึงกรอบเวลาการประชุม โดยวันที่ 29 พ.ค.จะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 - 24.00 น.วันที่ 30 พ.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น. และลงมติช่วงเช้าของวันที่ 31 พ.ค.รัฐบาล รวมเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมง โดยรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 15 ชั่วโมง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 63 ท่าน ส่วนของรัฐบาล 15 ท่าน โดยเป็นรมต.ที่เกี่ยวข้อง อาทิ รมว.คลัง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระยะเวลาแปรญัตติ 30วัน
ส่วนกระแสข่าวฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายและมีการบิดเบือนนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว นายกฯให้ความสำคัญเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม นายกฯจึงให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เพื่อชี้แจงจากการอภิปรายนโยบายรับจำนำข้าวอย่างไม่เป็นธรรม
สำหรับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีข้อเสนอ 6 ข้อมายังรัฐบาล ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท นายกฯมอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ไปศึกษาข้อเสนอ ป.ป.ช. หากข้อใดเป็นประโยชน์และไม่ขัดต่อกฎหมายก็ให้ดำเนินการ แต่หากมีอุปสรรคเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้นายนิวัฒน์ธำรง และปลัดสำนักนายกฯ หารือกับป.ป.ช. โดยยึดหลักรักษาผลประโยชน์ราชการ ดำเนินการอย่างโปร่งใส เน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันการทุจริต และให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองประธาน กบอ. ร่วมกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปหารือร่วมกับชุมชนที่จะดำเนินการและชี้แจงผลการหารือให้กับสาธารณชนทราบ