โดยกรณีแรกเป็นกลุ่มมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้ เช่น กลุ่มหน้ากากแดง หน้ากากขาว ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหรือร้อยละ 47.6 ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะกลัวจะเกิดความวุ่นวายรุนแรงบานปลาย สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจรไปมา กระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 29.9 เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพราะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ เป็นต้น ส่วนอีกร้อยละ 22.5 ไม่มีความเห็น
กรณีที่สองเป็นกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่งหรือร้อยละ 57.8 ยังคงมีความน่าเชื่อถือต่อการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ร้อยละ 19.6 ไม่เชื่อถือ ส่วนอีกร้อยละ 22.6 ไม่มีความเห็น
กรณีที่สามเป็นความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุขระหว่าง รมว.สาธารณสุข กับแพทย์ชนบทและกลุ่มต่างๆ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหรือร้อยละ 45.7 กังวลว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจจะมีผลนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสาธารณสุขที่กระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน ขณะที่ร้อยละ 26.6 ไม่กังวล ส่วนอีกร้อยละ 27.7 ไม่มีความเห็น
กรณีที่สี่เป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กับรัฐบาล ซึ่งกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 37.7 มีความน่าเชื่อถือในแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ ธปท.มากกว่า ขณะที่ร้อยละ 15.8 เชื่อถือแนวทางของรัฐบาลมากกว่า ส่วนอีกร้อยละ 26.9 เชื่อถือทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน และร้อยละ 19.6 ไม่มีความเห็น
กรณีที่ห้าเป็นปัญหาการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2554 เมื่อวันที่ 7 ก.ย.54 ซึ่งต่อมาศาลปกครองกลางได้พิพากษาสั่งให้เพิกถอนคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว แต่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานศึกษาคำสั่งศาลปกครองดังกล่าว รวมทั้งมีรายงานข่าวว่าหลังจากนายกรัฐมนตรีได้ฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาด้านกฎหมายแล้วจะตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.9 เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ร้อยละ 16.5 เห็นว่าควรยื่นอุทธรณ์ และอีกร้อยละ 51.6 ไม่มีความเห็น
กรณีที่หกเป็นเรื่องที่มีนักวิชาการออกมาเตือนให้รัฐบาลทบทวนนโยบายประชานิยม ซึ่งกลุ่มตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 56.8 เห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทบทวนแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายประชานิยม เช่น รับจำนำข้าว, 30 บาทรักษาทุกโรค, น้ำ-ไฟฟรี, รถคันแรก และบ้านหลังแรก ขณะที่ร้อยละ 23.8 เห็นว่าไม่จำเป็นต้องทบทวน และอีกร้อยละ 19.4 ไม่มีความเห็น
ทั้งนี้ เอแบคโพลล์ ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวด้วยการสุ่มเลือกจากประชาชนใน 17 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 2,156 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3-8 มิ.ย.ที่ผ่านมา