"จะนำข้อเรียกร้องไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเกษตรกร และไม่ละเลยการแก้ไขปัญหาทุจริต โดยรัฐบาลจะไม่ปิดกั้นการแสดงความเห็นและเป็นสิทธิของเกษตรกรที่จะสามารถยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง หรือนัดชุมนุมเคลื่อนไหว และไม่กังวลว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ เนื่องจากเป็นการชุมนุมด้วยใจบริสุทธิ์ มีเหตุผลจากความเดือดร้อน ไม่ใช่เหตุผลทางการเมืองแอบแฝง แต่หากใครใช้โอกาสนี้เป็นเงื่อนไขเป็นประเด็นการเมืองก็อาจทำให้ปัญหาบานปลายได้ แต่ก็เชื่อว่าเกษตรกรไม่น่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมือง" นายวราเทพ กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนสภาเกษตรกรกลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง 26 จังหวัด
โดยเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวขอให้รัฐบาลทบทวนมติการปรับลดราคารับจำนำข้าวจาก 15,000 บาท/ตัน เป็น 12,000 บาท/ตัน แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อเรียกร้องก็ขอให้ขยายเวลาการรับจำนำข้าวราคา 15,000 บาท/ตัน ออกไปจนกว่าจะหมดฤดูเก็บเกี่ยวประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย.56 เพราะขณะนี้ยังมีข้าวที่รอการเก็บเกี่ยวอีกกว่าร้อยละ 60
นายวราเทพ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังได้เตรียมพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยอาจมีแนวทางทบทวนหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าว หรืออาจจะหามาตรการในการลดผลกระทบให้กับเกษตรกร ด้วยการหาแนวทางในการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพข้าวให้กับเกษตรกร ซึ่งคาดว่าน่าจะชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ และน่าจะทำให้ปัญหาของเกษตรกรบรรเทาลงได้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องทุจริตก่อนที่จะลดราคารับจำนำข้าวนั้น นายวราเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ละเลยเรื่องการแก้ปัญหาทุจริต และมติคณะรัฐมนตรีได้มอบให้ทุกฝ่ายไปทำแผนปฏิบัติกำชับให้เข้มงวดพร้อมยืนยันว่านโยบายรับจำนำข้าวไม่ล้มเหลว เพราะทำมา 1 ปี ส่งผลดีต่อเกษตรกร ชาวนา และประเทศ
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวราเทพ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง แต่รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนเข้าใจให้ถูกต้อง พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังการปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้