"ต้องขอให้ทุกคนยืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง กระทำการใดก็อย่าเดือดร้อนประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้อง หรือบ้านเมือง รวมไปถึงประเทศ ขณะนี้ปัญหาประเทศไทยส่วนใหญ่จะเกิดจากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรที่ไม่พอใจก็ออกมาประท้วง ออกมาชุมนุม เกลื่อนเมืองไปหมด" รองโฆษกฯ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายราเมศ มองว่ารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน โดยปฏิบัติกับกลุ่มหน้ากากขาวไม่เหมือนกับกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลหรือคนเสื้อแดงนั้น รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การปฏิบัติต่อประชาชนที่ออกมาเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพ รัฐบางไม่มีการดำเนินการสองมาตรฐานแน่นอน หากชุมนุมอย่างสงบ สันติ ไม่สร้างความเดือดร้อน รัฐก็เปิดโอกาสให้ทำได้อย่างเต็มที่ หากดำเนินการไม่อยู่ในกรอบก็ต้องมีกระบวนการเข้ามาดูแล และทุกคนก็ต้องปฏิบัติตนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่มีใครเหนือกว่าทั้งสิ้น การเรียกร้องของนายราเมศ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสมอภาคแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากว่า
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มการชุมนุมมีบทบาทมากในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากการที่รัฐบาลบริหารงานล้มเหลว แต่เกิดจากการจุดชนวนของนักการเมืองบางพวก กลุ่มแกนนำต่างๆ ที่พยายามจะโค่นล้มรัฐบาลโดยอาศัยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น โครงการรับจำนำข้าวมาโจมตีรัฐบาลรายวัน อาจจะไม่แสดงท่าทีออกมาชัดเจน แต่ก็พยายามหาข้อมูลเท็จที่พอจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในรัฐ นับเป็นการปลุกระดมโดยไม่ต้องออกแรง
"อ้างว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อประชาชน นโยบายของรัฐบาลล้มเหลวบ้าง รัฐกำลังทำเพื่อพวกพ้อง และทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ นานา เพื่อเชื่อมโยงเข้าเกมการเมือง ถือว่าเป็นวิธีคิดที่ฉลาด ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ และเป็นกำแพงป้องกันเพื่อประโยชน์ของตนเอง" นายภักดีหาญส์ กล่าว