ที่สำคัญนายกรัฐมนตรี ต้องการเห็นการบูรณาการยุทธศาสตร์ทุกครั้งระหว่างลงพื้นที่ โดยจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดยโสธร ถือเป็นจังหวัดนำร่องในการนำนโยบายหรือยุทธศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับการปฏิบัติอย่างแท้จริง และการลงพื้นที่โอกาสต่อไปจะเป็นการลงพื้นที่เฉพาะปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดนั้น ๆ
สำหรับการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าในครั้งต่อไป จะจัดประชุมที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ที่ประชุมฯ เตรียมดัชนีชี้วัดด้านสังคมเพื่อหารือในที่ประชุม รวมทั้งให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการด้านการพัฒนาสังคมมาร่วมหารือในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อจะได้จัดทำแผนการดูแลผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งที่ประชุมฯ รับทราบเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการปรับลดราคารับจำนำข้าวว่า แนวคิดในการปรับลดราคารับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้นมาจากความต้องการที่จะสร้างสมดุลใน 4 ด้าน คือ 1) สมดุลในเรื่องวินัยการเงินการคลัง เพราะไม่ต้องการเห็นยอดในการจำนำข้าวเกิน 100,000 ล้านบาท 2) การดูแลความเป็นอยู่ของชาวนา ให้สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 3) การทำให้ผลิตภัณฑ์หรือข้าวมีคุณภาพที่ดี และ4) การทำให้ข้าวในประเทศไทยสามารถแข่งขันในราคาตลาดโลกได้ ดังนั้น ปัจจัยที่เป็นวิธีคิดของรัฐบาลในการนำมาสู่การปรับลดราคารับจำนำข้าวจึงมาจากปัจจัย 4 ด้านดังกล่าว
อีกทั้งสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ต้องการเห็นคือ การสร้างความชัดเจนในเรื่องความโปร่งใสและการป้องกันปัญหาการทุจริต ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง หรือผู้ตรวจสอบที่เป็นคนกลาง ร่วมกันประชุมและลงพื้นที่ในการตรวจโกดังข้าวทั้งหมด หากพบปัญหาต้องเร่งดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสให้กับประชาชน
และหากพบปัญหาในส่วนของกระบวนการหรือขั้นตอนการทำงาน หรือตัวบุคคลและผู้ปฏิบัติงาน ให้แบ่งปัญหาออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) ปัญหาในเรื่องนโยบาย 2) ปัญหาขั้นตอนการทำงาน และ3) ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงาน เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและตรงจุด ไม่กระทบกับนโยบายที่ดีของรัฐบาล
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องชาวนา โดยอยากให้มีการหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกในเรื่องต่าง ๆ เพราะจุดสำคัญของนโยบายรัฐบาลคือต้องการดูแลพี่น้องเกษตรกรและชาวนาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งกำชับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตรการในเรื่องของเกษตรโซนนิ่งในการชี้แจงให้เกษตรกร ได้รับทราบข้อมูลและเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งในเรื่องของเกษตรโซนนิ่งนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน