นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า การที่เซ็นสัญญาเงินกู้โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท กับสถาบันการเงิน 4 แห่ง หลังจากที่ศาลปกครองได้อ่านคำพิพากษาให้มีการทำประชาพิจารณ์โครงการน้ำก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการบริหารจัดการน้ำ ยืนยันว่าตนเองนั้นได้ทำตามหน้าที่และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งการเซ็นสัญญาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของโครงการ
นอกจากนี้ การกู้เงินเพื่อลงทุนโครงการบริหารจัดการน้ำจะไม่เป็นภาระต่อประเทศ เนื่องจากจะมีการชำระเงินที่ตรงตามเวลาที่กำหนดและไม่มีค่าธรรมเนียม
"ผมก็ทำตามหน้าที่ของผม ถ้าไม่เซ็นผมก็ผิด ก็เป็นการทำตามขั้นตอนตามงบที่ได้จัดสรรมา ผมมองว่าเป็นการเซ็นเพื่อเตรียมความพร้อมมากกว่า แต่ก็ดูคำวินิจฉัยของศาลปกครองที่พิจารณามาในบางเรื่องที่จะให้ทำประชาพิจารณ์เราก็จะทำตามที่ศาลสั่ง ส่วนการกู้เงินยืนยันว่าไม่เป็นภาระ เนื่องจากการขำระเงินจะตรงตามงวดและไม่มีค่าธรรมเนียม การเบิกเงินมาลงทุนก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ไม่เป็นภาระของประเทศแน่นอน"นายกิตติรัตน์ กล่าว