นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของโพลล์หลายสำนักพบว่าเสียงสะท้อนของประชาชนให้การตอบรับที่ดีกับครม.ชุดใหม่ เพราะมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งนักการเมืองและอดีตข้าราชการประจำมาร่วมครม.ในครั้งนี้ ทำให้ครม.ยิ่งลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนได้มากยิ่งขึ้น โดย ครม. ชุดนี้ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เข้าสู่ปีที่ 3 อาทิ โครงการรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ รวมทั้งเข้ามาแก้ปัญหาในด้านต่างๆของรัฐบาลให้มีการบูรณาการการทำงานโดยเน้นเชิงรุกมากขึ้น
สำหรับการดำรงตำแหน่งควบ รมว.กลาโหมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นครั้งแรกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีนายกพลเรือนที่ควบกระทรวงกลาโหม อาทิ นายชวน หลีกภัย นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องดีสะท้อนว่านายกฯ ให้ความสนใจปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงกันข้ามกับที่ฝ่ายค้านออกมากล่าวหาว่านายกฯ ต้องการแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการทหารเพราะไม่เป็นความจริง เนื่องจากการแต่งตั้งต้องผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการ ไม่มีใครมาแทรกแซงอำนาจผบ.เหล่าทัพได้ และเชื่อว่านายกฯไม่เข้าไปแทรกแซงแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ ส.ส.พรรคออกมาวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาของ ครม.ชุดใหม่ ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ เชื่อว่า ส.ส.มีวินัยมากพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมา และขอให้เปิดโอกาสให้ ครม.ชุดใหม่ เข้ามาทำงาน
ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรมว.แรงงาน ไม่เข้าร่วมการถ่ายรูปกับ ครม.นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสัญญาณของความขัดแย้ง เพราะการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนักการเมืองผู้ใหญ่ของพรรค ดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญมากมาย คงไม่น้อยใจ และน้อมรับในการตัดสินของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมอยู่ตำแหน่งใดก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและเข้าสภาเพื่อชี้แจงปัญหาและยังคงเป็นกันชนของรัฐบาล