ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้พิจารณา และให้ผู้ประกอบการรถร่วมนำเอกสารทางการเงิน และปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาแสดง เพื่อที่จะนำไปประกอบการพิจารณา และกำหนดเป็นแนวทางให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยนัดประชุมอีกครั้งใน 15 วัน ระหว่างนี้มอบหมายให้ ขสมก.ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการยกเว้นการจัดเก็บค่าเที่ยววิ่งว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องของสัญญาร่วมเดินรถ ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.มีรายได้จากสัญญาร่วมเดินรถเพียงเดือนละ 5 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมจะได้หารือกับ บมจ.ปตท.(PTT) เรื่องของการอุดหนุนค่าเชื้อเพลิง ซึ่งคงจะอุดหนุนแบบไม่จำกัดไม่ได้ แต่อาจขยายวงเงินเป็น 40,000-50,000 บาท
"กระทรวงคมนาคมไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่ก็จะหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการรถร่วม ซึ่งจะต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะจากข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการรถร่วมบางรายมีกำไร แต่บางรายขาดทุน ดังนั้นต้องพิจารณาสาเหตุขาดทุนว่าเกิดจากอะไร ผู้ประกอบการรั่วไหลเองหรือไม่" พล.อ.พฤณท์ กล่าว