ตลาดหุ้นที่ดีดตัวสูงขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่วงในบรรยายว่า “น่าจดจำ" เนื่องจากการร่วงลงครั้งแรกของตลาดในรอบ 6 เดือนในปี 2556 คาดว่า จะมีมูลค่า 5.44 หมื่นล้านปอนด์อียิปต์ (ประมาณ 7.7 พันล้านดอลลาร์) เมื่ออียิปต์ตกอยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบที่คุกรุ่นและมีการแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่างกลุ่มชาวมุสลิมที่สนับสนุนนายมอร์ซี และกลุ่มเสรีนิยมที่ต่อต้านนายมอร์ซี
นายอีฮาบ อัล-เดอซูกี หัวหน้าศูนย์เศรษฐกิจและสถาบันซาดัต (Economic Center of Sadat Academy) มอง ว่า ผลกำไรในตลาดหุ้นเป็น “ปฏิกิริยาของจริง" ต่อกระแสใหม่ในอียิปต์ ภายหลังจากการหลุดพ้นจากตำแหน่งของนายมอร์ซี
นายเดอซูกีกล่าวว่า “การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจด้านการลงทุน และการตัดสินใจเรื่องการลงทุนขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในอนาคตของนักลงทุนมากกว่าความเชื่อมั่นในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าตัวเลขที่พุ่งขึ้นสูงในวันนี้สะท้อนใหเห็นถึงความหวังที่มีมากขึ้นของนักลงทุนเกี่ยวกับอนาคตของอียิปต์ หลังการหลุดพ้นจากตำแหน่งของประธานาธิบดีมอร์ซีที่อยูได้แค่ครบวาระ 1 ปี"
กองทัพอียิปต์ปลดนายมอร์ซีออกจากตำแหน่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากการประท้วงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจาก “ประสิทธิภาพการทำงานที่ย่ำแย่" ตั้งแต่ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปลายเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว และกองทัพอียิปต์ได้แต่งตั้งนายอดิล มานซู ประธานศาลรัฐธรรมนูญสูงสุดขึ้นรักษาการเพื่อบริหารประเทศในช่วงระยะเวลาของการเปลี่ยนผ่านนี้
กองทัพได้วางแผนการณ์สำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านไว้ดังนี้ การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่มีอำนาจมากขึ้น การระงับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันชั่วคราว และการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อเตรียมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สำหรับนายเดอซูกีแล้ว แผนการณ์ดังกล่าว “สร้างความมั่นใจ" ให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับ “อนาคตอันใกล้" ของอียิปต์ เนื่องจากสิ่งแรกที่นักลงทุนสนใจคือ “เสถียรภาพ"
อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยุติลงและการวางแผนการ “ยังไม่เพียงพอ" สำหรับการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
“สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบ การแต่งตั้งประธานาธิบดีชั่วคราว และการวางแผนกลยุทธ์สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนแค่ใน “ระยะสั้น" เท่านั้น สิ่งที่อียิปต์ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้เพื่อกระตุ้นการลงทุนคือ “คณะรัฐบาลที่ทรงพลัง" เพื่อประโยชน์ในการวางแผนระยะยาว
นายบาสซันท์ ฟาห์มี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารเห็นพ้องกับนายเดอซูกี โดยกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นเป็นสัญญาณ “ที่ดี" เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอนาคตที่มีเสถียรภาพ
นายฟาห์มี่กล่าวว่า “การปรับตัวขึ้นนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์ของอียิปต์ แต่การตั้งคณะรัฐบาลซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีที่ “เชี่ยวชาญ" มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนมากกว่าการแต่งตั้งประธานาธิบดีรักษาการ" และตั้งข้อสังเกตว่าคณะรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเรื่องการผลักดันนโยบาย “โดยตรง" เพื่อสนับสนุนงานของนักลงทุน และเพื่อยุติ “ความเดือดดาล" ของแต่ละกลุ่มด้วยการจัดการผลประโยชน์ให้ลงตัว
นายฟาห์มี่ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ความมั่นคงจะ “ดีขึ้นกว่าเดิม" ภายหลังการหลุดพ้นจากตำแหน่งของนายมอร์ซี และคงจะเป็นเหตุผลหลักอีกอย่างหนึ่งที่ดึงนักลงทุนเข้ามา
“ความมั่นคงอันแสนเปราะบางส่งผลต่อนักลงทุนในช่วงที่นายมอร์ซียังดำรงตำแหน่ง ภาวะที่ปลอดการบริหารที่อ่อนแอของนายกรัฐมนตรีฮิชาม คานดิล ผู้ภักดีกับนายมอร์ซีนั้น ผมเชื่อว่า อียิปต์จะสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อนนี้ได้ในอนาคต" นายฟาห์มี่กล่าว
ไชมาห์ เบเฮรี่ จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน