นายกามาล มาซลุม ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวว่า “อียิปต์ต้องเสียไปกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองรัฐด้วยบทเรียนราคาแพง"
นายมาซลุมตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพอียิปต์สามารถยึดอาวุธที่ไม่มีใบอนุญาตได้เป็นจำนวนมาก และกองทัพยืนยันเด็ดขาดว่าความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่สงคราม
ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 36 รายและบาดเจ็บมากกว่า 1500 รายในเหตุปะทะกันทั่วประเทศ กลุ่มแบล็กบล็อก (Black Bloc) กลุ่มหัวรุนแรงที่ต่อต้านนายมอร์ซีซึ่งเพิ่งก่อตั้งใหม่ ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนไปที่จตุรัสทาห์รีเพื่อปกป้อง “การปฏิวัติ" ต่อต้านกลุ่มภราดรมุสลิม (Muslim Brotherhood) ซึ่งนายมอร์ซีเข้าร่วมด้วย
จนถึงปัจจุบัน กองทัพสามารถควบคุมการปะทะและแยกกลุ่มทั้งสองกลุ่มได้ นายมาซลุมกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า อียิปต์อาจเผชิญกับความรุนแรงมากขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ แต่คงจะไม่ลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง และ “จากนั้น ความรุนแรงจะถูกยับยั้งในเวลาอันสั้น"
แม้ว่าสถานการณ์ความปลอดภัยในคาบสมุทรไซนายจะลดน้อยลงจากการขับไล่นายมอร์ซี โดยประชาชน 7 ราย รวมถึงทหาร 2 รายและบาทหลวง 1 รายเสียชีวิตในเมืองอาริชเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ แต่นายมาซลุมเชื่อว่า กองทัพยังสามารถควบคุมกลุ่มหัวรุนแรงในอียิปต์ได้
นายมาซลุมตั้งข้อสังเกตว่า “การสมานฉันท์ภายในชาติเป็นเพียงทางเดียวที่จะทำให้เกิดความสงบ" และเสริมว่ากลุ่มภราดรมุสลิมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศและไม่ควรถูกกำจัด
นายฮัสไซน์ อับเดล ราซิก ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ จากกลุ่มภราดรมุสลิม กล่าวว่า “การยึดอำนาจยากที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำอีก" และจะถูกต่อต้านหากใช้ “รูปแบบความรุนแรงแบบเดิม"
นายราซิกกล่าวว่า “กลุ่มภราดรมุสลิมจะไม่สามารถก่อความรุนแรงได้ถ้าฝูงชนอยู่ในบริเวณจตุรัส" และคาดว่าจะมีกลุ่มผู้สนับสนุนการขับไล่ประธานาธิบดีออกมารวมตัวกันตามถนนมากขึ้น
หากมีพลเมืองออกมาตามถนนมากขึ้นและแผนกลยุทธ์ของกองทัพมีการบังคับใช้อย่างรวดเร็ว ความรุนแรงจะค่อยๆ ลดลง นายราซิกกล่าว
นอกจากนี้ โดยธรรมชาติแล้ว ชาวอียิปต์เป็นผู้ที่รักสงบ ดังนั้น กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงไม่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ นายมาซลุมเสริม
โดย : มาร์วา ยาห์ยา สำนักข่าวซินหัวรายงาน