จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปเขื่อนขุนด่านปราการชล อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่ง เป็นโครงการในพระราชดำริเพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำนครนายก และเพื่อเก็บกักน้ำสำหรับการเกษตร อุปโภค-บริโภค ตลอดจนแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการตรวจเยี่ยมพื้นที่เตรียมการก่อสร้างโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์เขื่อนขุนด่านปราการชล รวมถึงโครงการอื่น ๆ ตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยเฉพาะการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว “ขุนด่านแลนด์"
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 56 จังหวัดนครนายกได้ขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเขื่อนขุนด่านปราการชล ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และท่องเที่ยวเชิงผจญภัย โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยว 1.4 ล้านคน เพิ่มรายได้ 300 ลบ./ปี ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ฯได้มอบหมายให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครนายก และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบโครงการด้านเศรษฐกิจและสังคม และจัดทำแผนการบริหารโครงการให้ชัดเจน
หลังจากนั้น ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรี รับฟังการบรรยายสรุปโครงการตามแผนแม่บทและยุทธศาสตร์จังหวัด โดยนายสุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
นอกจากนี้ ในวันที่ 14 — 15 ก.ค. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปราชการจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดมหาสารคามด้วย