อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 40 วันทั้งสองฝ่ายคงต้องช่วยกันเฝ้าระวังด้วยกัน โดยจะประมาทไม่ได้ เพราะในเดือนนี้เขาอาจจะหยุดความรุนแรง แต่หลังจากเดือนรอมฏอนผ่านไปก็ยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คงต้องสืบสภาพกันต่อไป และเมื่อครบเดือนรอมฏอนแล้วก็จะนำไปสู่การพูดคุยกันครั้งต่อไป
สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มบีอาร์เอ็นผ่านอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองของมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพระหว่างไทยกับบีอาร์เอ็นถึงข้อตกลงเบื้องต้นในเดือนรอมฎอนว่า กลุ่มบีอาร์เอ็นรับปากควบคุมดูแลไม่ให้สมาชิกก่อเหตุความรุนแรงในกรอบเวลาวันที่ 10 ก.ค.ถึง 18 ส.ค.ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน และหลังสิ้นสุดรอมฎอนแล้ว 10 วัน รวม 40 วัน ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดทางภาคใต้ของไทยได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และ 5 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ นาทวี สะเดา จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย
ขณะที่ฝ่ายไทยรับจะรักษาความปลอดภัยประชาชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ลดการปิดล้อมตรวจค้นเชิงรุก โดยสมช.จะรับผิดชอบดูแลป้องกันปัญหาอาชญากรรมรุนแรง รวมถึงเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ในพื้นที่โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความปลอดภัยของสาธารณะชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ หากฝ่ายใดก็ตามที่ทำลาย ละเมิด ขัดขวาง หรือบ่อนทำลายข้อตกลงความเข้าใจร่วมกันในครั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะถือว่าคนผู้นั้นเป็นผู้ที่ไม่ยึดถือแนวทางสันติภาพและไม่ควรค่าแก่การเคารพอย่างยิ่ง