ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใดนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผยกลุ่ม เพราะไม่ต้องการให้เครดิต แต่หลังจากนี้จะพยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ โดยจะชี้แจงว่าช่วงเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ไม่ควรก่อเหตุทำร้ายกัน
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 21 ก.ค.นี้ พล.ต.อ.ประชา พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของกอ.รอน.ภาค 4 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ด้วย
พล.ต.อ.ประชา ยอมรับว่าหลังจากเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงแล้ว มีความกังวลใจในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากปัญหาภาคใต้เป็นสถานการณ์พิเศษ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ส่วนการปรับยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหานั้น พล.ต.อ.ประชา ระบุว่า ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะต้องประชุมร่วมกันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อพิจารณาทบทวนให้มีความเหมาะสม ขณะเดียวกันก็สามารถสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องส่งผู้ใหญ่ในรัฐบาลลงไปกำกับดูแลในพื้นที่ตลอดเวลา รวมทั้งจะเน้นการพัฒนา และการปรับเปลี่ยนในจุดตรวจหรือด่านสกัดให้เป็นหน่วยช่วยเหลือประชาชนด้วย
สำหรับการเดินทางไปกองบัญชาการกองทัพบกเมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ประชา ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องคลิปเสียงสนทนาที่คล้ายกับเสียงของพล.อ.ยุทธศักดิ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นการพูดคุยถึงแนวทางการทำงานร่วมกับผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รองผอ.กอ.รมน. และในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันในช่วงที่ตนทำหน้าที่ ผอ.ศปภ. ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผบ.ทบ.เป็นอย่างมาก