ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้เพื่อให้ติดตามสถานการณ์อย่างรู้เท่าทันกัน จะมีการหารือและการสู้กันอย่างเป็นทีม เพราะหากมีการต่อสู้กันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็จะสามารถสู้ได้
นายจตุพร กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงอย่าได้ออกไปชุมนุมในพื้นที่ที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เพราะสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการ คือ ให้เกิดการปะทะที่จะนำไปสู่สถานการณ์เลวร้ายหนัก เพราะเวลานี้ภาระหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนคนเสื้อแดงจะยึดมั่นแนวทางสันติวิธีซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ขอให้คนเสื้อแดงรับฟังการแถลงจาก นปช. เพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน และถ้าหากมีเหตุจำเป็นที่มวลชนต้องสำแดงพลัง ทาง นปช.จะไปจองสนามราชมังคลากีฬาสถาน
"ขอให้คนเสื้อแดงปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน และให้รู้ว่าคนเสื้อแดงมีความห่วงใยในสถานการณ์ไม่แตกต่างกัน แต่ต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องตามแนวทางที่ควรจะเป็น" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ ว่า ไม่ต้องไปวิตกกังวล เพราะในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์นั้นเคยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ถึง 20 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การประชุมอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ฯลฯ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มที่ จนกระทั่งได้ยกระดับมาเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็มีการใช้กำลังทหารกว่า 6 หมื่นนาย งบประมาณกว่า 6 พันล้านบาท และอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกรูปแบบ