ขณะที่ ส.ส.ของพรรคจะเดินเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ก่อน หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางพรรคจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ โดยจากนี้ต่อไป ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ เพราะหากไม่เข้าไปทำหน้าที่ อาจจะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาฯ อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง และหลังจากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านวาระ 3 แล้ว จะมีการนัดหมายชุมนุมกันอีกครั้ง
"เราคงต้องต่อสู้ด้วยสติ ไม่ผลีผลาม เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา...วันนี้ยังไม่ใช่นัดตัดเชือก คงต้องรอให้ถึงวาระ 3 ก่อน ซึ่งเราจะนัดกันเป็นระยะ ผมและเพื่อนๆ ขอสัญญาว่าจะสู้เคียงข้างประชาชนอย่างสุดจิตสุดใจ" นายสุเทพ กล่าวบนรถขยายเสียง
พร้อมระบุว่า พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ยืนยันว่า ไม่สามารถให้มวลชนเดินทางเข้าไปส่ง ส.ส.ในรัฐสภาได้ โดยอนุญาตเฉพาะเพียง ส.ส.เท่านั้น ซึ่งต้องยึดตามคำสั่งของรัฐบาล ส่งผลให้มีเสียงโห่จากมวลชนเป็นระยะ
ด้านนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความพอใจกับการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวของมวลชนในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าหากนัดระดมมวลชนในครั้งต่อไปจะมีมวลชนมาร่วมกันมากกว่านี้
"เชื่อว่าถ้าเป่านกหวีดครั้งหน้า มั่นใจว่ามวลชนจะมามากกว่านี้แน่" นายนิพิฎฐ์ กล่าวบนรถขยายเสียง
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความขอบคุณมวลชนที่มาชุมนุมด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย และพร้อมเป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่รักความถูกต้องให้ต่อสู้ต่อไป โดยระหว่างนี้ขอให้มวลชนกลับไปพักผ่อน และรอฟังคำตอบอยู่ที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของมวลชนจากเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ตลอดช่วงครึ่งวันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด โดยตั้งแต่ช่วงเช้านายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ใต้ทางด่วนบริเวณแยกอุรุพงษ์ เพื่อนัดหมายมวลชนถึงเส้นทางที่จะใช้เคลื่อนขบวนและส่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภา จากนั้นในเวลาประมาณ 9.30 น. เวทีผ่าความจริงได้มีการเปิดเพลง "บางระจันวันเพ็ญ" ของคาราบาวเพื่อปลุกใจมวลชนก่อนที่บรรดาส.ส.และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มนำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากแยกอุรุพงษ์
ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนประมาณ 2 พันคนได้ออกเดินเท้าจากแยกอุรุพงษ์ โดยใช้เส้นทาง ถ.พระราม 6 ผ่านหน้า รพ.รามาธิบดี แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกตึกชัย เข้ามายัง ถ.ราชวิถี และเดินเท้ามาหยุดที่แยกราชวิถีซึ่งเป็นด่านสกัดจุดแรกในเวลาประมาณ 10.35 น.จากนั้นมีการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ , นายชวน หลีกภัย และนายสุเทพ เพื่อขอให้มวลชนสามารถเดินเข้าไปส่ง ส.ส.ในรัฐสภาได้ แต่การเจรจารอบแรกไม่เป็นผล เพราะตำรวจไม่อนุญาต ซึ่งแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้ความพยายามอีกครั้งที่จะขอเจรจาต่อรองเป็นรอบที่ 2
แต่สุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 11.50 น. นายสุเทพ ได้ขึ้นบนรถขยายเสียงแจ้งผลการเจรจาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ยืนยันอีกครั้งว่าไม่สามารถอนุญาตให้มวลชนเดินฝ่าด่านสกัดเข้าไปส่ง ส.ส.ในรัฐสภาได้ และจะอนุญาตเฉพาะส.ส.และผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถเข้าไปได้เท่านั้น ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจต่อผู้ชุมนุมและมีการโห่ร้องเป็นระยะๆ
นายสุเทพ ได้ทำความเข้าใจกับมวลชนว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย โดยจะให้สัญญาณอีกครั้งหลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านการพิจารณาจากสภาฯ ในวาระ 3 ซึ่งช่วงนั้นน่าจะเป็นนัดตัดเชือก ดังนั้นขอให้มวลชนใจเย็นๆ และแยกย้ายกลับไปติดตามความคืบหน้ากันที่บ้าน ซึ่งทำให้มวลชนส่วนใหญ่ได้ยอมสลายการชุมนุม ขณะที่การจราจรในเส้นทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เดินเท้ามารัฐสภานั้น บางส่วนได้เริ่มเปิดให้รถสามารถสัญจรตามปกติแล้ว เช่น ถ.พระราม 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีมวลชนจากกลุ่มหน้ากากขาวจำนวนหนึ่งร่วมกับผู้กองปูเค็ม หรือ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล อดีตนายทหารนอกราชการ พยายามจะฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้
อย่างไรก็ดี การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งจะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย โดยเป็นการถ่ายทอดสดเฉพาะทีวีของรัฐสภา และถ่ายทอดเสียงผ่านทางวิทยุรัฐสภาเท่านั้น