นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมได้รับการฟังบรรยายสรุป และมอบนโยบายในการปฏิบัติงานโดยย้ำให้ส่วนราชการ และข้าราชการกองทัพไทยยึดมั่นในกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล ตลอดจนพัฒนากองทัพให้มีความพร้อมที่จะเผชิญกับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งขอให้กองทัพสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ๆ ของประเทศชาติ ตลอดจนมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามบทบาทและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อเป็นหลักในด้านความมั่นคงให้กับประชาชนและประเทศชาติ
สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมีการตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพบก ในช่วงเช้าของวันที่ 16 ส.ค. ช่วงบ่าย กองบัญชาการกองทัพอากาศ และในวันที่ 23 ส.ค. จะตรวจเยี่ยมที่กองบัญชาการกองทัพเรือ
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า บริเวณทางด้านหน้าของกองทัพไทยมีกลุ่มผู้ชุมนุมนำโดย ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ยืนชูป้ายต่อต้านการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม กล่าวภายหลังการมอบนโยบายและรับฟังสรุปการปฏิบัติงานของกองทัพไทยว่า นโยบายที่ได้มอบให้กองทัพไทยในวันนี้ เน้นย้ำให้กองทัพไทยทำงานร่วมกับทุกเหล่าทัพอย่างบูรณาการ เน้นการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาควบคู่กันไปให้เชื่อมต่อกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลป้องกันความปลอดภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวชายแดนทั้งประเทศ รวมถึงการเตรียมตัวเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการป้องกันการก่ออาชญากรรม การก่อการ้ายในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาและบูรณการการทำงาน
ทั้งนี้ ในฐานะ รมว.กลาโหมยินดีที่จะทำงานร่วมกับกองทัพไทยและเหล่าทัพเพื่อบูรณาการการทำงานในทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงการส่งเสริมเรื่องขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพไทย และพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ ที่สำคัญให้เกิดความมั่นคง และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด
โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มีความพอใจต่อการทำงานของกองทัพไทย เพราะกองทัพทำงานและปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศประสบปัญหาต่าง ๆ ทางกองทัพจะลงไปในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องขอชื่นชมในการทำงาน โดยรัฐบาลจะเสริมต่อเรื่องการประสานงานระหว่างกองทัพกับพลเรือนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
สำหรับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกองทัพนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องช่วยกันอย่างอดทน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ในการรักษาความสงบ และความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ป้องกันในการทำงาน จำนวนบุคลากร การเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ รวมไปถึงการพัฒนาสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งต้องร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ด้วยความพยายามของทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะสามารถนำความสงบสุข ความสันติสุขกลับคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมย้ำว่า ในฐานะ รมว.กลาโหมจะทำงานบนหลักของความไว้เนื้อเชื่อใจ จะประสานงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ สำหรับการสับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งในกองทัพนั้น จะดำเนินการอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามกติกาของกองทัพ ซึ่งแต่ละกองทัพจะดูแลอัตรากำลังของแต่ละกองทัพอยู่แล้ว