ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือต่างๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ โดยไทยและทาจิกิสถานยังมีโอกาสและลู่ทางในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอีกมาก ซึ่งทั้งสองฝ่ายแสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยนักธุรกิจไทยที่ร่วมคณะเยือนทาจิกิสถานในครั้งนี้ จากสาขาต่างๆ เช่น พลังงาน อาหาร และอัญมณี มีความสนใจที่จะเปิดโอกาสความร่วมมือทางการค้ากับทาจิกิสถาน และจะได้มีการหารือกันอย่างจริงจัง
รวมทั้ง การสร้างความเชื่อมโยงและปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่ง ไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของทาจิกิสถานในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งเป็นประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งนายกรัฐมนตรีฯ ยินดีที่สายการบินโซมอนแอร์ (Somon) ประสงค์ที่จะเปิดเส้นทางบินตรง ในเส้นทางกรุงดูชานเบ-กรุงเทพฯ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตสำหรับภูมิภาคอาเซียนและเอเชียกลาง
ส่วนความร่วมมือด้านวิชาการ ไทยพร้อมร่วมมือกับทาจิกิสถานในการพัฒนาทุนทางบุคลากร (Human Capital) โดยในปีนี้ ไทยได้มอบทุนการศึกษาให้แก่ทาจิกิสถานจำนวน 2 ทุน ซึ่งจะเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการเกษตร การพัฒนาการท่องเที่ยว และพลังงานทางเลือก
ความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยชื่นชมการมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ของทาจิกิสถานในกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศจะช่วยพัฒนา และนำไปสู่ความร่วมมือระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง และเจริญรุ่งเรืองในเอเชีย โดยไทยยินดีสนับสนุนทาจิกสถานในการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ประสานงานการแจ้งเตือนล่วงหน้าของ ACD หรือ ACD Early Warning Center Coordination Network และเห็นพ้องให้ความมั่นคงด้าน้ำอยู่ภายใต้กรอบการดำเนินการ ACD ทั้งนี้ ไทยให้ความสำคัญเรื่อง การเชื่อมโยงภูมิภาค ACD และชื่นชมความเห็นของทาจิกิสถานต่อการกำหนดรูปแบบของแผนพัฒนาภูมิภาค โดยการเชื่อมโยงของ ACD จะเป็นผลของการระชุมมสุดยอด ACD ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2558
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยความร่วมมือทางน้ำ ซึ่งไทยประสงค์ที่จะแสดงให้เห็นว่า ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีที่การใช้และแบ่งปันประโยชน์ของแหล่งน้ำ ผ่านความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วน ทั้งนี้ ความร่วมมือระดับภูมิภาคถือว่ามีความสำคัญ ที่จะใช้ในการแก้ปัญหาและความท้าทายภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
นอกจากนี้ ไทยและทาจิกิสถานยังเห็นพ้องถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะให้มีการติดต่อใกล้ชิด และยินดีที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองฝ่ายมีการพัฒนาและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อเป็นกลไกในการติดตามความสัมพันธ์ทวิภาคี ในปี 2557
ภายหลังการหารือเสร็จสิ้น นายกฯ และประธานาธิบดีทาจิกิสถาน ได้ร่วมเป็นประธานในการพิธีลงนามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการไทย-ทาจิกิสถาน จากนั้น ทั้งสองร่วมแถลงข่าวถึงผลการหารือที่ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีและเห็นพ้อง เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือต่างๆ