โฆษกรัฐบาลเผยไทย-ปากีสถานตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าต่อกันเป็นสองเท่าใน 5 ปี

ข่าวการเมือง Wednesday August 21, 2013 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลหารือระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับนายมูฮัมหมัด นาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ในโอกาสนำคณะเดินทางมาเยือนปากีสถานอย่างเป็นทางการในรอบ 11 ปี ว่า ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ไทย-ปากีสถานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 60 ปี สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ และนายกรัฐมนตรีฯ ได้ชื่นชมถึงความเข้มแข็งของระบบประชาธิปไตยในปากีสถาน โดยมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย ขณะที่นายกรัฐมนตรีปากีสถานได้แสดงความยินดีที่ไทยมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกตามระบอบประชาธิปไตย

ในด้านเศรษฐกิจไทยสามารถยกระดับความสัมพันธ์กับปากีสถานในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนทางด้านเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง(Strong Economic Partnership) ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศเป็น Economic Hub ของภูมิภาค โดยปากีสถานเป็นประตูสู่เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน และภาคตะวันตกของจีน ขณะที่ไทยเป็นประตูสู่อาเซียนแก่ปากีสถาน นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยินดีส่งเสริมการเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกันเป็นสองเท่าภายใน 5 ปี การจัดตั้งสภาธุรกิจร่วม และผลักดัน FTA ไทย-ปากีสถาน ผ่านกรอบการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถานซึ่งจะลงนามจัดตั้งในการเยือนครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ไทยยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยขอมีการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการไทย เช่น การลดภาษี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา

ด้านการท่องเที่ยวและความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ทั้งสองประเทศยินดีที่การท่องเที่ยวระหว่างไทย-ปากีสถานเพิ่มขึ้น มีเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ 18 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ไทยพร้อมส่งเสริมให้ชาวปากีสถานเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สำหรับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-ปากีสถานสนับสนุนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญในการเตรียมพร้อม การบริหารจัดการ และการฝึกอบรมร่วมกันเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น

ด้านความร่วมมือทางทหารและความมั่นคง ทั้งสองประเทศยินดีกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ภายใต้กรอบการประชุมการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมเฉพาะเรื่องอื่นๆระหว่างไทย-ปากีสถาน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการต่อต้านการก่อการร้ายฯครั้งที่ 3 ในสิ้นปีนี้

ความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีฯชื่นชมปากีสถานที่แสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในเวทีระดับภูมิภาคและพหุภาคี โดยเฉพาะการสนับสนุนท่าทีไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในกรอบเวทีองค์การการประชุมอิสลาม(Organization of Islamic Conference-OIC) และการส่งเสริมเวที Asia Cooperation Dialogue(ACD) ที่ไทยริเริ่มขึ้น

โดยนายกรัฐมนตรีปากีสถานยินดีสนับสนุนและเข้าร่วมการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งประเด็นสำคัญของการประชุม คือ การส่งเสริมความเชื่อมโยงภายในเอเชีย และข้อริ่เริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ ที่จะเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง และเอเชียใต้ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ไทยได้ขอให้ปากีสถานสนับสนุนนักเรียนไทยในปากีสถาน โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และนายกรัฐมนตรีปากีสถานได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและประชาชนไทยสำหรับความช่วยเหลือช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวของปากีสถานด้วย

หลังการหารือเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นประธานการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตระหว่างไทยและปากีสถาน 2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการค้าระหว่างไทยและปากีสถาน 3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมระหว่างไทยและปากีสถาน

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีฯและนายกรัฐมนตรีปากีสถานร่วมแถลงข่าวถึงผลการหารือระหว่างไทยและปากีสถาน ทั้งในมิติความสัมพันธ์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความมั่นคง และเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ