ในด้านเศรษฐกิจไทยสามารถยกระดับความสัมพันธ์กับปากีสถานในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนทางด้านเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง(Strong Economic Partnership) ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศเป็น Economic Hub ของภูมิภาค โดยปากีสถานเป็นประตูสู่เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน และภาคตะวันตกของจีน ขณะที่ไทยเป็นประตูสู่อาเซียนแก่ปากีสถาน นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยินดีส่งเสริมการเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกันเป็นสองเท่าภายใน 5 ปี การจัดตั้งสภาธุรกิจร่วม และผลักดัน FTA ไทย-ปากีสถาน ผ่านกรอบการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ปากีสถานซึ่งจะลงนามจัดตั้งในการเยือนครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ไทยยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยขอมีการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการไทย เช่น การลดภาษี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ด้านการท่องเที่ยวและความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ทั้งสองประเทศยินดีที่การท่องเที่ยวระหว่างไทย-ปากีสถานเพิ่มขึ้น มีเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ 18 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ไทยพร้อมส่งเสริมให้ชาวปากีสถานเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สำหรับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-ปากีสถานสนับสนุนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญในการเตรียมพร้อม การบริหารจัดการ และการฝึกอบรมร่วมกันเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น
ด้านความร่วมมือทางทหารและความมั่นคง ทั้งสองประเทศยินดีกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ภายใต้กรอบการประชุมการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมเฉพาะเรื่องอื่นๆระหว่างไทย-ปากีสถาน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการต่อต้านการก่อการร้ายฯครั้งที่ 3 ในสิ้นปีนี้
ความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีฯชื่นชมปากีสถานที่แสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในเวทีระดับภูมิภาคและพหุภาคี โดยเฉพาะการสนับสนุนท่าทีไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในกรอบเวทีองค์การการประชุมอิสลาม(Organization of Islamic Conference-OIC) และการส่งเสริมเวที Asia Cooperation Dialogue(ACD) ที่ไทยริเริ่มขึ้น
โดยนายกรัฐมนตรีปากีสถานยินดีสนับสนุนและเข้าร่วมการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งประเด็นสำคัญของการประชุม คือ การส่งเสริมความเชื่อมโยงภายในเอเชีย และข้อริ่เริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ ที่จะเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง และเอเชียใต้ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ไทยได้ขอให้ปากีสถานสนับสนุนนักเรียนไทยในปากีสถาน โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และนายกรัฐมนตรีปากีสถานได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและประชาชนไทยสำหรับความช่วยเหลือช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวของปากีสถานด้วย
หลังการหารือเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นประธานการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตระหว่างไทยและปากีสถาน 2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการค้าระหว่างไทยและปากีสถาน 3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมระหว่างไทยและปากีสถาน
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีฯและนายกรัฐมนตรีปากีสถานร่วมแถลงข่าวถึงผลการหารือระหว่างไทยและปากีสถาน ทั้งในมิติความสัมพันธ์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความมั่นคง และเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี