"เงินทุนจำนวนมากไม่ควรที่จะไหลเข้าในช่วงที่ผ่านมาแล้วเป็นภาระต้นทุน และส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงคือการส่งออก ไหลออกไปบ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย" นายกิตติรัตน์ กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีความกังวลเกิดขึ้นจะมีการเทขายหุ้นล็อตใหญ่ออกมาก็จะเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่จะได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูก สำหรับไทยไม่ได้มีอะไรที่เป็นข้อสงสัย เพราะรัฐบาลได้ประกาศชัดเจนแล้วว่ามีแนวทางในการแก้ไขปัญหางบประมาณขาดดุลอย่างไร และหนี้สาธารณะต่อ GDP ยังอยู่ในระดับต่ำแม้จะเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
"มองประเทศไทยให้มองยาวๆ อย่าไปสนใจเรื่องนี้จนลังเลที่จะเดินหน้าต่อไป แทนที่จะหมกมุ่นให้เห็นตัวเลขระยะสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องดีนัก" นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ ย้ำว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอยตามที่เป็นข่าว เพราะยังมีอัตราการเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่าซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่เศรษฐกิจด้านอื่นๆ ยังเป็นไปได้ดี โดยในช่วงไตรมาสที่ 3-4 คาดเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้ดีจากปัจจัยเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐ
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการปรับสมดุล โดยปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้นมาจากการบริโภคในประเทศ หลังจากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มคุณภาพบุคลากร การพัฒนาต่อยอดสินค้า