สำหรับสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 3 ก.ย.ฝ่ายข่าวรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมในภาคใต้ ได้มีความพยายามเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่สวนลุมพินี มีการตรวจสอบพบว่าแกนนำบางส่วนที่สวนลุมพินี ได้ลงสู่พื้นที่ภาคใต้ด้วย ล่าสุดทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวการชุมนุมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ไม่มีการชุมนุมเพราะหลายส่วนมีความพอใจตามเงื่อนไขของรัฐบาล
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.ชุมพร ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ กว่า 2,000 คน ร่วมชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร มีการตั้งเต็นท์กว่า 20 หลัง พร้อมตั้งเวทีปราศรัยบนถนนฝั่งตรงข้ามบันไดทางขึ้นศาลากลาง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรหน้าศาลากลางไปโดยปริยาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ชุมพรได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย สมทบกับอาสาสมัคร (อส.) จากกองร้อย อส.จ.ชุมพรกว่า 100 นาย เพื่อคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและป้องกันมิให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่อความรุนแรง
ส่วนชาวสวนยาง จ.สงขลา คาดว่า จะมีชาวสวนยางไม่น้อยกว่า 1,000 คนเดินทางด้วยรถบัสและรถตู้ที่เตรียมไว้กว่า 30 คันไปร่วมชุมนุม ขณะที่ชาวสวนยางใน จ.สตูล จะเดินทางไปร่วมชุมนุมปิดถนนสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยรวบรวมเงินบริจาค อาหารและน้ำดื่ม ไปสมทบ
ขณะที่การชุมนุมที่จ.นครศรีธรรมราชนั้น เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มตำรวจควบคุมฝูงชนจาก จ.กระบี่ อีก 1 กองร้อยเข้าดูแลสถานการณ์
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังอยู่ห่างจากพื้นที่การชุมนุมของชาวม็อบสวนยาง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ไม่น้อยกว่า 10 กม. ความเคลื่อนไหวยังอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และตรัง ส่วนจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวคือระนอง พังงา และภูเก็ต