นายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปมอนเตเนโกรครั้งนี้ว่า ถือเป็นการพ่วงทริปเดินทาง เพราะจากอิตาลีไปมอนเตเนโกร ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่า ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้ร้องขอมา เนื่องจากทางมอนเตเนโกรได้เชิญเราให้ไปเยือนนานแล้ว การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดความสัมพันธ์ใหม่ อีกทั้งมอนเตเนโกรยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ในการแลกเปลี่ยน และในภาพรวม และเป็นการส่งเสริมนักท่องเที่ยว เพราะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เป็นกลุ่มที่มีรายได้มาก ซึ่งเราสามารถโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยวในเชิง "เมดิคอลฮับ"ได้ด้วย
นอกจากนี้ ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการประชาสัมพันธ์ในการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแบบไม่ถาวร รวมถึงฮิวเมนไลฟ์ ซิเคียวริตี้ ซึ่งจะได้มีโอกาสหารือ พร้อมทั้งขอเสียงสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว
"การเดินทางครั้งนี้มีทั้งภาคเอกชน และสื่อมวลชนติดตามไปตลอด ก็ยินดีให้ติดตามได้ตลอด ยืนยันว่าการเดินทางทุกทริปของดิฉัน เน้นผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และมีการหารือหลาย ๆ อย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ดิฉันยินดีให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการเดินทางเยือนต่างประเทศ หากมีหลักฐานก็ยินดี เพราะยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดที่ไปเจรจา ไปในนามภาพรวมของประเทศทั้งนั้น ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวใด ๆ เลย" นายกฯ กล่าว