นายบรรหาร กล่าวว่า ตนเองมาพบในฐานะผู้ประสานงาน เพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ขณะนี้ตนเองอายุ 82 ปีแล้วคงจะอยู่อีกไม่กี่ปีก็อยากจะทำประโยชน์ให้ลูกหลานบ้าง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้โทรมาปรึกษาว่าอยากจะปฏิรูปบ้านเมืองให้ทุกฝ่ายมาเปิดใจคุยกัน ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล โดยขอให้ตนเองเป็นผู้ประสานเพราะรู้จักคนมาก
" ที่มาวันนี้ไม่ได้หวังว่าท่านทั้งสองคนจะเข้าร่วมสภาปฏิรูป แต่ตนอาจจะใช้อีกสภามาพูดคุยกันอีกก็ได้ แต่ตนขอยืนยันว่าตนมีความจริงใจที่จะให้ประเทศเดินหน้าเท่านั้น ส่วนข้อเสนอของตนที่จะให้กับรัฐบาลนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งว่ารัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ ตนก็ขอทำหน้าที่ของตัวเองเท่าที่ทำได้" นายบรรหาร กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสนอให้มีการปฏิรูปนั้นเพราะบ้านเมืองมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งมันมาจากการกระทำของพรรครัฐบาล และคงไม่จำเป็นต้องตั้งสภาปฏิรูป แต่สามารถแก้ไขได้เองที่ตัวของรัฐบาล พธม.ไม่ได้ต้องการทำเพื่อตัวเอง แต่คิดปกป้องสถาบันและชาติเท่านั้น
"นายกฯ ควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นตอ อะไรที่ทำอยู่ก็ยกเลิกซะ ง่ายจะตาย ไม่ต้องเดือดร้อนนายบรรหารด้วย มันเสียเวลา" พล.ต.จำลอง กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ตนเองขอตั้งคำถามกับนายบรรหาร 4-5 ข้อว่า นายบรรหารคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ควรจะกลับมาติดคุกหรือไม่, จะนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องนิรโทษกรรมให้นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทยด้วยหรือไม่, ทำไมนักการเมืองและข้าราชการต้องบินไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ และกลับมาพร้อมตำแหน่ง ตนเองไม่เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง และรัฐบาลไม่ได้แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา
"ถ้าเขาคิดจะใช้พี่บรรหารเป็นเครื่องมือในเกมนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นผมขอไม่เล่นด้วย และอยากถามพี่ด้วยว่าพี่คิดว่าตัวเองก็คือต้นตอขอปัญหาด้วยหรือไม่" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า สถานการณ์ทุกวันนี้ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2540 อีกครั้งหนึ่ง ตนเองอยากให้นักการเมืองเสียสละ หยุดเล่นการเมืองสัก 2 ปี แล้วมาร่างกติกาให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ภราดรภาพคนไทยต้องมีเท่ากัน สิทธิในกระบวนการยุติธรรมจะต้องเข้าถึงได้เหมือนกัน แต่วันนี้จะมาปฏิรูปแบบนี้มันไม่มีประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องถอย ถ้ารักบ้านเมืองจริง ถ้าทุกฝ่ายไม่ก้าวล่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่กันแบบที่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขบ้านเมืองเราก็จะไม่มีสีอีก
"ผมไม่เคยคิดว่าทักษิณจะปฏิรูปการเมือง เขาก็แค่ต้องการลดอุณหภูมิทางการเมืองลงมาเท่านั้น งั้นต้องถามว่าพี่จะไปเป็นตัวประกอบของเขาอีกนานไหม นี่คือคำพูดที่มาจากใจ พี่ต้องไม่โกรธผม" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ตนเองกลัวว่านายบรรหารเสนออะไรไปทางรัฐบาลก็จะไม่ทำตาม ตนเองจึงอยากให้นายบรรหารทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันลือลั่นก่อนตายเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นเครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ
"ถ้าจริงใจต่อการปฏิรูป ผมอยากให้แสดงจุดยืนให้ชัดเจนเพื่อคนรุ่นหลัง ให้คนที่ไม่ได้มองในแง่ดี เพื่อพิสูจน์ว่าสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อชาติ เพื่อประชาชน" นายสนธิ กล่าว
นายบรรหาร กล่าวว่า ตนเองทำด้วยความจริงใจ ไม่ได้เป็นเครื่องมือใคร ตอนนี้แค่เริ่มต้น ตอนจบจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอดูต่อไป ตนเองไม่ได้แก้ตัวแทน บางอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้เชื่อพี่ชาย ตนเองจึงเห็นถึงเจตนาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าดี แต่ปัจจุบันความเป็นธรรมในสังคมมันไม่มี ตนเองถูกแบน พรรคถูกยุบทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดมันสองมาตรฐานหรือไม่ ตนเองก็ถูกรังแกจากเรื่องบางอย่าง
"ทีนี้ก็พูดว่า ทำไมทักษิณไม่เข้ามา เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ได้ทำความผิด เรื่องนิรโทษกรรมเพื่อทักษิณ ไม่น่าจะเป็นไปได้ กฏหมายนิรโทษครั้งนี้ไม่มีแปรญัตติเพื่อทักษิณ" นายบรรหาร กล่าว
นายสนธิ จึงถามว่า ถ้าสุดท้ายแล้วสภาฯ จะนิรโทษกรรม หรือพยายามทำอะไรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทางนายบรรหารจะสนับสนุนหรือไม่ ทำให้นายบรรหารหน้าเสียก่อนตอบว่า ไม่ขอตอบ คำถามนี้ตอบยากถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
นายบรรหาร กล่าวว่า เรื่องที่มีบุคคลต่างๆ เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นตนเองไม่ทราบ เห็นแค่ตามข่าว ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงแค่ผู้เสนอแนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ส่วนตัวตนเองไม่อยากมีปัญหากับใครเลย แม้กระทั่งนายชูวิทย์
นายสนธิ กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เดินทางไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดยศให้ และตนเองเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง
สำหรับกฎหมายนิรโทษกรรมที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยพูดว่าพี่ชายจะไม่ได้รับอานิสงค์ด้วยนั้น นายบรรหารได้ให้นายสมศักดิ์ ตอบแทนว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกันจะเห็นว่าการนิรโทษกรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ พรรคร่วมก็จะต้องหารือกันอีกที