เนื่องจากศาลเห็นว่าเนื้อหาตามคำร้องยังไม่มีมูลกรณีที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง
"ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมาก(7 ต่อ 1) จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย" คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ
คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่า ผู้ถูกร้องที่ 2-309 เป็น ส.ว.และ ส.ส.ได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่...) พุทธศักราช...(แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 111, มาตรา 112, มาตรา 115, มาตรา 116 วรรคสอง, มาตรา 117, มาตรา 118, มาตรา 120 และมาตรา 241 วรรคหนึ่ง และยกเลิกมาตรา 113 และมาตรา 114) ต่อมาประธานรัฐสภาผู้ถูกร้องที่ 1 โดยกำหนดหลักการและเหตุผลให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้วิธีการได้มาซึ่ง ส.ว.มีลักษณะเช่นเดียวกับวิธีการได้มาซึ่ง ส.ส. โดยการได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งหมดเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 291(1) วรรคสอง เนื่องจากเป็นการเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ เพราะรัฐสภาซึ่งประกอบด้วย ส.ว.คือรูปของรัฐที่ได้รับการรับรองไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ถูกร้องที่ 2-309 จะเสนอมิได้ และผู้ถูกร้องที่ 1 ก็มิอาจบรรจะร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้
ผู้ร้องจึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 และสมาชิกรัฐสภาเลิกการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว และเพิกถอนการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวทั้งหมดทันที และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล พรรคมหาชน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ รวมทั้งดำเนินการไต่สวนฉุกเนเพื่อมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 และสมาชิกรัฐสภายุติการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสินิจฉัย