"สุรนันท์"แจงเหตุโยก 2 ล้านลบ.ใช้งบกลางปี-งบประมาณปกติไม่ได้

ข่าวการเมือง Thursday September 19, 2013 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้ออภิปรายของนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้รัฐบาลใช้การออก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายกลางปี แทนการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทว่า โครงการที่จะดำเนินการในลักษณะผูกพันหลายๆ ปี หรือที่เรียกว่า ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ซึ่งในกรณีนี้เป็นโครงการระยะยาว หากจัดทำเป็นงบประมาณเพิ่มเติมกลางปีจะไม่ครอบคลุมวงเงินของทั้งโครงการ และขาดความต่อเนื่อง มีโอกาสที่โครงการจะล่าช้า หรือไม่สำเร็จ

และหากใช้การตั้งงบประมาณปกติรายปี ก็จะทำให้งบประมาณในปีต่อๆ ไปไม่เพียงพอต่อการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น ด้านการศึกษา สาธารณสุข และความมั่นคง เพราะคงจะต้องนำเม็ดเงินงบประมาณไปใช้ในด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จริงๆ แล้วหากมีความต่อเนื่องในการจัดทำงบประมาณตั้งแต่ปี 48-49 สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ริเริ่มไว้ในโครงการโมเดลไทยแลนด์ โดยลงทุนร่วมกับเอกชนหรือมีการกู้เงินก็จะทำให้ประเทศไม่เกิดความล้าหลังหรือเกิดความล่าช้าในการลงทุน จนกระทั่งวันนี้จำเป็นต้องตัดสินใจลงทุนขนาดใหญ่ จึงเสนอออกกฎหมายดังกล่าว โดยหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะเข้าใจ และทำให้การลงทุนที่เราขาดมาในอดีตเดินไปข้างหน้าได้

หากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ สิ่งที่จะเสียหายคือโอกาส เพราะการที่รัฐบาลนำเสนอเรื่องการเชื่อมโยงทั้งในประเทศและภูมิภาคเป็นสิ่งที่ยอมรับในระดับสากล การหารือกับสถาบันการเงินไทยและต่างประเทศ ต่างมีมุมมองว่า 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างความเชื่อมั่นฟื้นกลับมาได้แล้ว และขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทในช่วง 7 ปี หรือการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท หากสะดุดลงจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและนักลงทุนสูญเสียไป

"ความเชื่อมั่นนี้ไม่ใช่เรียกกลับคืนมาง่ายๆ ฉะนั้นวันนี้ถ้าร่วมมือร่วมใจกัน และตรงนี้ถือเป็นโครงการของประเทศ เป็นของคนไทยทุกคนถ้าช่วยกันให้ผ่านไปได้ เริ่มลงทุนได้ จะมีการสร้างงานสร้างรายได้จำนวนมหาศาล ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวที่จะทำให้คนไทยมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น และเป็นการสร้างงานสำหรับลูกหลานของเรา"

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้เวลาชี้แจงประชาชน ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้รับฟังความคิดเห็นตามกระบวนการทั้งในต่างจังหวัดหลายจุด และการจัดนิทรรศการในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์ราชการ ถือว่าได้รับการตอบรับตอบสนองที่ดี มีข้อคิดเห็นมากมาย แต่สิ่งสำคัญทุกคนมองว่า อันนี้คืออนาคตของประเทศอย่าไปมองเพียงแค่สร้างรางรถไฟ เรากำลังสร้างอนาคต ฉะนั้นการสร้างอนาคตคือการสร้างเมืองใหม่ จุดใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

สำหรับการเสนอร่างกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น เชื่อว่ารัฐบาลจะได้รับความเป็นธรรม และหวังว่าการตีความต่างๆ ไม่มีวาระซ่อนเร้น ขอให้เป็นไปตามเนื้อผ้า เพราะประชาชนจะเห็นความสำคัญของการลงทุน ส่วนข้อสงสัยว่ารัฐบาลจะใช้เงินถูกต้องหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส ในที่สุดจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีกลไกต่างๆ ที่จะมาควบคุมการเบิกจ่ายการใช้เงินให้ต้องเป็นไปตามระบบระเบียบราชการทั้งสิ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ