ส่วนชุดที่ 2 คือ กรรมการบริหารพรรค เดิมเสนอไว้ 15 คน ก็ให้เพิ่มจำนวนเป็น 25 คน คือเพิ่มรองหัวหน้าภาค 5 คน และเพิ่มรองหัวหน้าพรรค ในโควต้าหัวหน้าจากเดิมตั้งได้ 3 คน เพิ่มเป็น 5 คน เพื่อให้เข้ามารับผิดชอบงานในแต่ละด้าน เช่น เศรษฐกิจ สังคม และ ต่างประเทศ
ทั้งนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค โดยที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติให้แก้ข้อบังคับพรรคและคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสนอต่อที่ประชุม ส.ส.ได้ จากนั้นจะมีการกำหนดวันเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อแก้ข้อบังคับพรรค และจะมีการสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าจะสามารถเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค ในคราวเดียวกันได้หรือไม่ ซึ่งตามปกติเมื่อมีการแก้ข้อบังคับ ต้องส่งให้ กกต.ตรวจสอบและรับรองข้อบังคับดังกล่าว
ส่วนกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคฯ โพสต์ทวิตเตอร์ว่าหากการปฏิรูปพรรคไม่ได้ตามที่ต้องการก็จะเป็นยกสุดท้ายของตัวเองและเลขาธิการพรรคนั้น นายอัศวิน กล่าวว่า มีการพูดคุยกัน โดยมีการท้วงติงในที่ประชุมฯ ว่า ไม่ควรไปโพสต์ข้อความในลักษณะนั้น ซึ่งนายอลงกรณ์ได้ชี้แจงว่าไม่มีเจตนาที่จะว่าหรือตำหนิใคร และจะไม่มีการทวิตเตอร์ในลักษณะนี้ออกมาอีก โดยไม่ได้การพูดถึงการลาออกจากพรรคแต่อย่างใด
สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นเกมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคนั้น นายอัศวิน ยืนยันว่า ไม่มีใครต้องการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคทุกคนยังพอใจการทำหน้าที่ของนายอภิสิทธิ์ ทุกอย่างเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย โครงสร้างใหม่นั้นบางส่วนการแต่งตั้งเป็นอำนาจของหัวหน้า เช่น การแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคเพิ่ม และตำแหน่งเลขาธิการพรรคหัวหน้าเป็นผู้เสนอต่อที่ประชุม ส่วนรองภาคให้ที่ประชุมเสนอ และเลือกกันเอง และรองเลขาธิการพรรค เลขาธิการพรรคจะเป็นผู้เสนอ
ขณะที่นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงการโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ด้วยเหตุผลแล้ว โดยยืนยันว่ามีผู้สนับสนุน 12 ล้านคนอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อวานนี้เห็นชอบการปฏิรูปพรรคที่จะกระจายอำนาจความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งต่อจากนี้จะนำเข้าที่ประชุมร่วม ส.ส.และกรรมการบริหาร เพื่อขอให้ความเห็นชอบภายในเดือนนี้ แล้วจีงนำเข้าที่ประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อขอการรับรอง และเรียกประชุมกรรมการบริหารตามโครงสร้างใหม่ทั้งหมด